Search This Blog

Thursday, June 12, 2025

สุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ฟรีดริช แมร์ซ (Friedrich Merz) ในงาน Familienunternehmer-Tagen 2025 (วันผู้ประกอบการธุรกิจครอบครัว 2025) ที่กรุงเบอร์ลิน

 #เบอร์ลิน #เยอรมนี สุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ฟรีดริช แมร์ซ (Friedrich Merz) ในงาน Familienunternehmer-Tagen 2025 (วันผู้ประกอบการธุรกิจครอบครัว 2025) ที่กรุงเบอร์ลิน เมื่อวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2025 มีประเด็นสำคัญ คือ การทำให้เยอรมนีมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น #morecompetitive 

นายกรัฐมนตรีแมร์ซเน้นย้ำว่าปัญหาที่เยอรมนีกำลังเผชิญอยู่สามารถแก้ไขได้ด้วยความพยายามของเยอรมนีเอง โดยรัฐบาลกลางต้องการให้การสนับสนุนบริษัทต่างๆ ในทางปฏิบัติ ท่านได้กล่าวยกย่องความมุ่งมั่นของสมาคม Die Familienunternehmer ในการส่งเสริมผลประโยชน์ทางธุรกิจครอบครัวในเยอรมนี คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 90% ของบริษัททั้งหมดในเยอรมนี และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความเจริญรุ่งเรืองและนวัตกรรมของประเทศ

ในสุนทรพจน์ ท่านนายกกล่าวเชิงนโยบายและการเปลี่ยนแปลงเยอรมัน กล่าวคือ 

  🇩🇪 การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ท่านนายกรัฐมนตรีชี้ว่าปัญหาหลัก คือ การขาดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของเยอรมนี และต้องการให้บริษัทต่างๆ มีผลกำไรและแข่งขันได้มากขึ้น

 🇩🇪 การเพิ่มการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล รัฐบาลดยอรมันกำลังให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการปรับปรุงรัฐให้ทันสมัย อาจมีกระทรวงใหม่ที่มีอำนาจครอบคลุมมารับผิดชอบเรื่องนี้

 🇩🇪 การลดระบบและขั้นตอนของราชการ เยอรมนีต้องลดขั้นตอนระบบราชการที่ยุ่งยากลง โดยจะมีการหารือกับคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อลดระบบราชการในสหภาพยุโรป

 🇩🇪 เยอรมนีต้องมีนโยบายพลังงานที่ดีขึ้น ราคาที่จับต้องได้ ปลอดภัย และเปิดกว้างต่อเทคโนโลยี โดยรัฐบาลต้องการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่บริษัทต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของภาษีไฟฟ้าและค่าธรรมเนียมเครือข่าย

ผมคิดว่าจสากสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีฟรีดริช แมร์ซสะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักของรัฐบาลเยอรมนีต่อความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ประเทศกำลังเผชิญ และแสดงเจตจำนงในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

 การให้ความสำคัญกับธุรกิจครอบครัว เป็นการเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของธุรกิจนี้ ที่คิดเป็นร้อยละ 90 ของบริษัททั้งหมดของเยอรมนี สามารถสร้างยอดขายถึงร้อยละ 37 และจ้างงานกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ประกันตนของเยอรมนี แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมองว่าธุรกิจครอบครัวเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง การแก้ไขปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจกลุ่มนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

 อย่างไรก็ตามครับ การรับรู้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมาของนาายกรัฐมนตรีระบุอย่างชัดเจนว่า ปัญหาหลักของเยอรมนี คือ การขาดความสามารถในการแข่งขันด้านราคา ที่เยอรมนียอมรับสภาพปัญหาอย่างตรงไปตรงมา และเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการหาแนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ และหามาตรการแก้ไขอย่างเป็นรูป

  🇩🇪 ด้านดิจิทัลและลดระบบราชการของเยอรมนี ต้องเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและลดขั้นตอนราชการ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำธุรกิจ แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในปัญหาพื้นฐานที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญ การตั้งกระทรวงใหม่ที่มีอำนาจครอบคลุมเป็นสัญญาณที่ดีว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง

 🇩🇪 ส่วนนโยบายพลังงาน ท่านกล่าวว่า พลังงานต้องมีราคาที่จับต้องได้ ปลอดภัย และเปิดกว้างต่อเทคโนโลยี รวมถึงการลดภาระภาษีไฟฟ้าและค่าธรรมเนียมสำหรับบริษัท แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลตระหนักถึงต้นทุนพลังงานที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมเยอรมนี

 แม้เยอรมนีจะยอมรับปัญหา แต่ท่านนสยกก็กล่าวว่า ปัญหาที่เยอรมนีสามารถแก้ไขได้ด้วยความพยายามของเยอรมนีเอง ซึ่งเป็นการสร้างกำลังใจและกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน "กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่" (Dare to make a new start) ซึ่งเป็นคำขวัญของงาน ก็สะท้อนถึงเจตคติของการเปลี่ยนแปลงและมุ่งไปข้างหน้า

ณัฐพล จารัตน์

กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี

#นวัตกรรมเยอรมัน #เยอรมนี #เยอรมัน