ผมมองว่าการชมละครสั้นเรื่องนี้ของชาวเยอรมันเป็นพฤติกรรมสมัยใหม่หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็น Pop culture (วัฒนธรรมประชานิยม) ทำให้เข้าใจและได้เรียนรู้วัฒนธรรมนี้ของชาวเยอรมันได้ด้วย
เมื่อค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับ Dinner for One เพราะอยากเข้าใจที่มาและเพราะอะไรทำให้ละครเรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้ของการฉลองส่งท้ายปี
Dinner for One เป็นสเก็ตช์ตลกสั้นประมาณ 18 นาที ที่เล่าเรื่องราวในงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ 90 ปีของ Miss Sophie หญิงชราผู้มั่งคั่งและสง่างาม เธอจัดงานเลี้ยงมื้อค่ำพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองกับเพื่อนสนิทของเธอ 4 คน ได้แก่ Sir Toby, Admiral von Schneider, Mr. Pommeroy และ Mr. Winterbottom แต่ในความเป็นจริงแล้ว เพื่อนสนิททั้งหมดของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว กระนั้น Miss Sophie ยังคงรักษาประเพณีการจัดงานนี้ไว้ เพื่อให้มื้อค่ำดำเนินไปได้ตามปกติ โดยมี James บัตเลอร์ผู้ซื่อสัตย์ของเธอ ต้องสวมบทบาทเป็นเพื่อนเหล่านั้น ทั้งในการดื่มอวยพรและการตอบสนองคำพูดในแต่ละจังหวะของมื้อค่ำ
ใน Dinner for One ตัวละครหลักมีเพียงสองคนเท่านั้น แต่ทั้งสองคนสร้างเรื่องราวขับเคลื่อนความขบขันในเรื่องได้อย่างเต็มที่ ตัวละครทั้งหมด คือ 1. Miss Sophie เป็นหญิงชราที่ฉลองวันเกิดครบรอบ 90 ปีของเธอ เธอเป็นเจ้าของบ้านที่จัดมื้อค่ำพิเศษขึ้น เธอเป็นคนที่ดูสง่างาม มั่นใจ และมีความมุ่งมั่นในประเพณีของตัวเอง แม้ว่าเพื่อนสนิทของเธอเสียชีวิตไปแล้ว เธอก็ยังคงจัดงานเลี้ยงเพื่อพวกเขาเหมือนเช่นทุกปี แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงในตัวเองที่ยังคงยึดถือประเพณีแม้จะต้องฉลองเพียงลำพัง และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ James บัตเลอร์ที่แสดงถึงความเคารพและความคุ้นเคยระหว่างกันมาโดยตลอด
2. James เป็นบัตเลอร์ผู้รับผิดชอบดูแลมื้อค่ำของ Miss Sophie ในค่ำคืนวันเกิด เขาต้องสวมบทบาทเป็นเพื่อนสนิททั้ง 4 คนของ Miss Sophie ที่ล่วงลับไปแล้ว เขาเป็นคนที่มุ่งมั่นและพยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ แม้จะต้องรับมือกับสถานการณ์ที่แปลกประหลาด อดทนและมีไหวพริบ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความขบขันในความเงอะงะ สิ่งที่เขาต้องทำประจำคือ การดื่มเครื่องดื่มแทนแขกที่ล่วงลับไปจนทำให้เขาเมามาย การสะดุดพรมเสือซ้ำ ๆ ซึ่งกลายเป็นมุขตลกหลักของเรื่อง และการพูดประโยคที่เป็นเอกลักษณ์ "The same procedure as last year, Miss Sophie?"
3. แขกที่ล่วงลับ (ในจินตนาการ) แขกเหล่านี้จะไม่ได้ปรากฏตัวในเรื่อง แต่พวกเขามีบทบาทสำคัญในเรื่องราวผ่านการสวมบทบาทของ James ประกอบด้วย
Sir Toby หนึ่งในเพื่อนสนิทของ Miss Sophie ตัวละครนี้แสดงถึงชายผู้มีความมั่นใจและเต็มไปด้วยเสน่ห์
Admiral von Schneider แขกที่มักจะปิดท้ายด้วยการพูด "Skål!" (คำดื่มอวยพรในภาษาเยอรมัน-สแกนดิเนเวียน) พร้อมทำท่าคำนับ
Mr. Pommeroy เพื่อนอีกคนของ Miss Sophie ที่ James สวมบทบาทระหว่างมื้อค่ำ
Mr. Winterbottom แขกคนสุดท้ายที่ James ต้องสวมบทบาทในการดื่มอวยพร
Dinner for One: การเป็น Pop Culture ในสังคมเยอรมัน
Dinner for One ไม่ใช่แค่สเก็ตช์ตลกธรรมดา แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมประชานิยม (Pop Culture) ของชาวเยอรมันในช่วงสิ้นปี สะท้อนถึงหลายแง่มุมของความคิดและลักษณะเฉพาะตัวของคนเยอรมัน และการดูรายการนี้ทุกปีได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่มีความหมายมากกว่าเพียงความบันเทิง ผมคิดว่ามี 5 ประเด็น คือ
ความเป็นเอกลักษณ์ (Uniqueness) "Dinner for One" แม้จะเป็นผลงานจากอังกฤษ แต่กลับไม่เป็นที่รู้จักในประเทศต้นกำเนิด ทว่ากลับได้รับการยอมรับและกลายเป็นที่นิยมในเยอรมนีอย่างล้นหลาม การดู "Dinner for One" ทุกสิ้นปีได้กลายเป็นประเพณีที่ไม่เหมือนใครในเยอรมนี
ความนิยมที่ข้ามรุ่น ด้วยความเรียบง่ายของเรื่องราวและอารมณ์ขันที่เป็นสากล "Dinner for One" สามารถดึงดูดผู้ชมได้ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทำให้มันถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ความเรียบง่ายและความสนุกสนาน เรื่องราวใน "Dinner for One" ไม่มีโครงเรื่องซับซ้อน แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันแบบขบขัน (Slapstick Humor) ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายและทำให้ผู้ชมรู้สึกผ่อนคลาย
การยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ James บัตเลอร์ผู้เมามายและความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในมื้อค่ำสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ทำให้เราหัวเราะและมองเห็นความงดงามในความผิดพลาด
"Dinner for One" กลายเป็น Pop Culture ของชาวเยอรมันเพราะความเรียบง่าย ความขบขัน และการที่มันเข้ากับจิตวิญญาณของการเฉลิมฉลองวันสิ้นปี สะท้อนถึงลักษณะนิสัยของชาวเยอรมันที่รักความมั่นคง รักษาขนบธรรมเนียม และชื่นชอบความสนุกสนานในชีวิต การดูรายการนี้ทุกปีจึงไม่ได้เป็นแค่ความบันเทิง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและการสร้างความทรงจำร่วมกันในครอบครัวและชุมชน ชาวเยอรมันยังคงกลับมาดู "Dinner for One" ซ้ำทุกปี เพราะมันเชื่อมโยงพวกเขากับความสุข ความคุ้นเคย และขนบธรรมเนียมที่สะท้อนถึงความเป็นตัวตนของคนเยอรมัน
ความตลกหรือขบขันของ Dinner for One อยู่ตรงไหน
ความขบขันของ Dinner for One เกิดจากหลายองค์ประกอบที่สร้างอารมณ์ขันแบบสากลและง่ายต่อการเข้าถึง ซึ่งผมคิดว่า
Slapstick Humor (อารมณ์ขันจากท่าทางและสถานการณ์)
การที่ James บัตเลอร์ของ Miss Sophie ต้องเล่นบทเพื่อนสนิทที่ล่วงลับไปแล้วทั้ง 4 คน และดื่มเครื่องดื่มแทนพวกเขาทำให้เขาเมามาย
James พยายามทำหน้าที่ของเขาอย่างจริงจัง แต่ยิ่งดื่มมากเท่าไหร่ การกระทำของเขายิ่งวุ่นวายและตลกขบขัน
บทสนทนาอันโดดเด่น
ประโยคที่เป็นตำนานอย่าง "The same procedure as last year, Miss Sophie?" และคำตอบ "The same procedure as every year, James." สร้างความขบขันผ่านความเรียบง่าย แต่ก็เป็นแกนสำคัญของเนื้อเรื่อง
การจัดมื้ออาหารที่ไม่มีแขกจริง
ความตลกเกิดจากสถานการณ์ที่ Miss Sophie ยังคงจัดงานเลี้ยงวันเกิดร่วมกับเพื่อนที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยที่ James ต้องเล่นบทเป็นทุกคนอย่างจริงจัง
ต่อมาผมก็สงสัยว่า One ในชื่อเรื่องมีความหมายอื่น ๆ หรือไม่ ผมจึงลองวิเคราะห์ ความหมายของคำว่า One ใน Dinner for One กล่าวคือ
คำว่า One ในชื่อเรื่อง Dinner for One มีความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นสัญลักษณ์
ความหมายตรงตัว สื่อถึง Miss Sophie ผู้จัดมื้อค่ำนี้ขึ้นมาเพียงลำพัง เพราะเพื่อนสนิทของเธอทั้ง 4 คนได้ล่วงลับไปแล้ว
ความโดดเดี่ยวและความทรงจำ คำว่า One ยังสะท้อนถึงความโดดเดี่ยวของ Miss Sophie ในฐานะคนสุดท้ายที่ยังคงอยู่ และยังคงรักษาความทรงจำถึงเพื่อนๆ ผ่านพิธีกรรมซ้ำๆ ที่เธอทำทุกปี
สัญลักษณ์ของความเป็นตัวตนและความมั่นคง การที่ Miss Sophie ยังคงฉลองวันเกิดในแบบเดิมทุกปี สื่อถึงความมั่นคงในตัวตนและความเคารพในความทรงจำของเธอเอง แม้ว่าเธอจะเหลือเพียงลำพัง
ผมคิดว่า Dinner for One ใช้คำว่า One อย่างชาญฉลาด ไม่เพียงแต่แสดงถึงตัวละครที่ฉลองมื้อค่ำลำพัง แต่ยังสะท้อนถึงการยึดมั่นในความทรงจำ แม้เมื่อเวลาผ่านไปหรือชีวิตเปลี่ยนแปลง ความขบขันในเรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่เพื่อความสนุก แต่ยังผสมผสานด้วยความหมายของชีวิตและความสัมพันธ์ในมิติที่ลึกซึ้งกว่าแค่อารมณ์ขันทั่วไป
จากการดูละครเรื่องนี้และสังเกตุความขบขันของเพื่อนชาวเยอรมันต่อการชมละครนี้ ทำให้ผมต้องมองความขบขันของชาวเยอรมันให้เข้าใจ การมาอาศัยอยู่ในเยอรมนี การดู Dinner for One ถือเป็นหนึ่งในวิธีในการเข้าใจวัฒนธรรมและความเป็นเอกลักษณ์ของวันสิ้นปี (Silvester) ของชาวเยอรมัน ผมพบเองว่า (ด้วยความคิดเห็นส่วนตัว) คนเยอรมันมีความรู้สึกร่วมอย่างไรกับเรื่องนี้ คือ
1. ความสำคัญในวัฒนธรรมเยอรมัน
Dinner for One เป็นหนึ่งในประเพณีที่คนเยอรมันยึดถืออย่างเหนียวแน่นในวันสิ้นปี การที่รายการนี้ถูกออกอากาศซ้ำทุกปีทำให้มันกลายเป็น "สิ่งที่ต้องทำ" สำหรับชาวเยอรมันก่อนเข้าสู่ปีใหม่
ชาวเยอรมันชื่นชอบอารมณ์ขันแบบเรียบง่ายและซ้ำซาก (repetition comedy) ซึ่ง Dinner for One แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน การดูเรื่องนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงรสนิยมด้านความบันเทิงของพวกเขา
3. การเชื่อมโยงกับสังคมเยอรมัน
หากเราพูดถึง Dinner for One กับชาวเยอรมัน พวกเขาจะยิ้มและพร้อมแบ่งปันความประทับใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นหัวข้อสนทนาที่ช่วยเชื่อมโยงคุณกับคนในท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น
การรู้จักประโยคดังอย่าง "The same procedure as last year?" และ "The same procedure as every year!" จะทำให้เราเข้ากับชาวเยอรมันได้ดี เพราะมันเป็นมุขที่ทุกคนรู้จักและชื่นชอบ
4. เรียนรู้วิธีเฉลิมฉลองปีใหม่ในเยอรมัน
การดู Dinner for One ช่วยให้เราเข้าใจว่าวัฒนธรรมเยอรมันให้ความสำคัญกับประเพณีเล็ก ๆ ที่สร้างความสุข แม้จะเป็นรายการจากต่างประเทศ แต่พวกเขาได้นำมาประยุกต์ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต