กฎหมายข้อบังคับสำหรับนักเรียนสยามที่เรียนวิชา
ณ ประเทศยุโรป
พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษ์วโรประการ เสนาบดีว่าการต่างประเทศรับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่า บันดาเด็กคนไทยทั้งหลายที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ออกไปเล่าเรียนวิชาอยู่ ณ ประเทศยุโรปนั้น
โดยพระบรมราชประสงค์เพื่อจะให้ได้วิชา เวลากลับเข้ามากรุงเทพฯ จะได้ทำการสิ่งซึ่งเปนประโยชน์แก่ราชการแลบ้านเมืองต่อไป
เพราะเหตุฉนั้น จึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดเด็กไทยส่งออกไปเล่าเรียนวิชา
แลพระราชทานเงินหลวงเปนค่าเล่าเรียน เสื้อผ้า กินอยู่เบ็จเสร็จตามสมควร
แลนักเรียนที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกไปเรียนวิชามาแต่ก่อน ๆ นั้น บางคนก็ได้ตั้งใจอุส่าห์หมั่นในการเล่าเรียนจริง
ๆ จนได้ปาสเอกซำมิเนชัน คือ ไล่สอบวิชาครบสำเร็จการเล่าเรียนโดยเร็วก็มี
แลบางคนนั้นเกียจคร้านแก่การเล่าเรียน ๆ ไปกระนั้นโดยไม่เต็มใจ แลไม่คิดรักวิชา
เชือนแชทำให้เสียเวลา แลไม่คิดมุ่งหมายที่จะให้ได้สอบไล่วิชา
แลบางคนนั้นประพฤติการชั่วจนต้องส่งตัวกลับเข้ามากรุงเทพฯ นักเรียนที่เกียจคร้านก็ป่วยการเสียเวลา
นักเรียนที่ประพฤติชั่วก็เสียเวลาแลเงินเปล่า เพราะฉนั้น จึ่งมีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาทโปรดเกล้าฯ
ให้มีพระราชบัญญัติกฎหมายข้อบังคับสำหรับนักเรียนไทยที่โปรดเกล้าฯ
ให้ออกไปเรียนวิชาอยู่ ณ ประเทศยุโรป ไว้สืบต่อไปภายน่าดังนี้
ข้อ ๑ ว่า บันดานักเรียนที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ออกไปเล่าเรียนวิชาอยู่ ณ ประเทศยุโรปนั้น จะให้มีกำหนดการเล่าเรียนไว้เปนชั้น
ๆ ตามการที่ได้เล่าเรียนที่ดีเปนที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ โดยลำดับกัน คือ ชั้นที่ ๑ นั้น
ถ้านักเรียนคนใดตั้งใจหมั่น อุส่าห์เล่าเรียนได้ไล่สอบวิชาจนจบครบเสร็จ
สำเร็จการเล่าเรียนวิชาต่าง ๆ ในระหว่าง ๓ ปี ๔ ปี ดังนี้ ต้องจัดแลเรียกว่า
นักเรียนชั้นที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานบำเหน็จรางวัลให้แก่นักเรียนผู้ได้ไล่สอบวิชาแล้วโดยเร็วนั้นเปนความชอบเปนเงิน
๕๐ ปอนด์ กับเงินค่าสมุดหนังสือตำราที่ได้เล่าเรียนมาอีกตามสมควร
เปนเงินไม่เกินกว่า ๕๐ ปอนด์
ข้อ ๒ ว่า นักเรียนที่ได้ไล่สอบวิชาเหมือนกันกับชั้นที่
๑ ฤาข้อที่ ๑ ก็ดี แต่การที่เล่าเรียนนั้นได้ช้ากว่า คือ เรียนอยู่ในระหว่าง ๕ ฤา
๖ ปี จึ่งได้ไล่สอบวิชาดังนี้ ต้องเรียกว่าเปนนักเรียนชั้นที่ ๒
พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานบำเหน็จแก่นักเรียนผู้นั้นเปนรางวัลเปนเงิน ๒๕ ปอนต์ กับเงินค่าสมุดหนังสือ
วิชาที่ได้เล่าเรียนมานั้นอีกเปนเงินไม่เกินกว่า ๒๕ ปอนด์
ข้อ ๓ ว่า
นักเรียนที่จะได้ไล่สอบวิชาเหมือนกันกับชั้นที่ ๑ แลชั้นที่ ๒ ก็ดี
แต่ถ้าเรียนได้ช้าลงมากว่านักเรียนชั้นที่ ๒ คือ ต้องเรียนอยู่ถึง ๗ ปี ๘ ปี
ฤากว่านี้ขึ้นไปก็ดี นักเรียนชนิดนี้ต้องจัดเปนที่ ๓ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานรางวัลแก่นักเรียนผู้นั้นเปนเงิน ๑๐ ปอนด์
กับเงินค่าสมุดหนังสือวิชาที่ได้เล่าเรียนมานั้นอีกตามสมควรเปนเงินไม่เกินกว่า ๑๐
ปอนด์ เท่านั้น
ข้อ ๔ ว่า นักเรียนที่ทรงพระกรุราโปรดเกล้าฯ
ให้ออกไปเล่าเรียนวิชา ณ ประเทศยุโรปนั้น ต้องคิดรักษาพระเกียรติยศแลชื่อเสียงไว้
อย่าให้เปนที่ติเตียน แลเสียไปในการชั่วต่าง ๆ ดังที่มีตัวอย่างมาแล้วแต่ก่อน ๆ
ซึ่งเปนที่เสียชื่อเสียงแล้ว ทั้งเงินทั้งเวลาไปด้วยเปล่า ๆ
ข้อ ๕ ว่า ถ้านักเรียนผู้ใดประพฤติตัวเปนคนชั่วชั้นที่
๑ คือ เปนผู้กระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองนั้นให้ส่งกลับเข้ามากรุงเทพฯ ในทันใด
แลให้ค่าโดยสารแต่เพียงชั้นที่ ๓ เมื่อถึงกรุงเทพฯ แล้วจะต้องทำโทษหนักแลเบา
ข้อ ๖ ว่า บันดานักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ ๑๕ ปีขึ้นไป
ก็ต้องเรียกว่าเปนคนชั้นผู้ใหญ่แล้ว
ถ้าคนใดไปเที่ยวซุกซนทำให้ตัวเจ็บอย่างหนึ่งอย่างใด
ซึ่งทำให้เสียเงินแลเสียเวลาเล่าเรียนดังนี้ ต้องจัดเปนนักเรียนชั่วที่ ๒
ต้องให้ส่งตัวผู้นั้นไปให้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของเมืองนั้น
กว่าจะหายเงินค่าเรียนส่วนที่ได้รับพระราชทานในระหว่างป่วยนั้น
ถ้าป่วยถึงเดือนไม่ต้องเบิกเงินให้
ถ้าป่วยไม่ถึงเดือนต้องเก็บเอาเงินนั้นรักษาไว้ให้เปนค่าสิ่งใดในเวลาเมื่อผู้นั้นกลับกรุงเทพฯ
ตามแต่เจ้าพนักงานผู้จัดการจะเหนสมควรว่าเปนค่าสิ่งนั้น ๆ ให้มีใบบอกเข้ามายังกรุงเทพฯ
ข้อ ๗ ว่า นักเรียนคนใด ๆ ก็ดี
ถ้าไม่มีเงินทองของตัวแล้ว ไปเที่ยวซื้อเชื่อเข้าของต่าง ๆ ตามห้างแลร้านเขาก็ดี
ฤาไปเที่ยวกู้ยืมทำหนี้สินต่าง ๆ ดังที่ว่ามานี้ที่เปนเงินฤาของราคาตั้งแต่ ๕
ปอนด์ขึ้นไป ๔๐ ปอนด์ เจ้าหนี้เจ้าของมาทวงว่ากล่าวฟ้องร้องพิจารณาได้ความจริงดังนี้
ต้องจัดเปนความชั่วชั้นที่ ๓ ให้ส่งตัวผู้นั้นให้ครูทำโทษ คือ
เมื่อสิ้นเวลาเล่าเรียนแล้วให้ครูเอาตัวขังห้องไว้ไม่ให้ไปข้างไหน
แลให้ลดเงินค่าอาหารเสื้อผ้าแลปอกเกตมันนี คือ เงินค่าใช้สอบติดตัวเล็กน้อย
กว่าจะเก็บเงินส่วนคนผู้นั้นได้ใช้หนี้ให้แก่เจ้าหนี้เจ้าของครบเสร็จแล้วจึ่งให้พ้นโทษ
แต่ถ้าทำหนี้กว่า ๔๐ ปอนด์ขึ้นไปต้องนับเปนคนผิดอย่างชั่วที่ ๑
ข้อ ๘ ว่า
นักเรียนผู้ใดที่ได้ไล่สอบวิชาที่สมควรจะได้รับพระราชทานรางวัลนั้นต้องเปนคนประพฤติตัวดี
ไม่มีความผิดข้อสำคัญที่ทำให้เสียพระเกียรติยศ แลชื่อเสียงฤาตามข้อ ๕
จึ่งจะได้รับพระราชทานบำเหน็จตามความดีความชอบได้
ข้อ ๙ ว่า นักเรียนคนใดที่มิได้ป่วยไข้สิ่งใด
ฤามิได้อนุญาตจากครูที่จะหยุดการเล่าเรียน
ถ้าผู้ใดแชเชือนบิดพลิ้วเกียจคร้านไม่ไปเล่าเรียนตามเวลากำหนดของตัว
ถ้าครูฟ้องว่านักเรียนผู้นั้นขาดการเล่าเรียน ได้ความจริงดังครูกล่าวแล้ว
ต้องให้คิดเงินส่วนค่าเล่าเรียนที่ได้นั้นออกเปนรายวันตามที่ขาดเท่าใด
ให้ชักเอาเงินนั้นไว้เหมือนข้อที่ ๖ ที่ว่ามาแล้ว
ข้อ ๑๐ ว่า ข้อความต่าง ๆ
ทั้งปวงที่ได้มีมาข้างต้นในข้อบังคับฉบับนี้
ถ้ามีเหตุที่แปลกประหลาดออกไปในส่วนการเล่าเรียนก็ดี
ฤาเหนว่าข้อใดควรจะเพิ่มเติมใหเปนประโยชน์แก่การเล่าเรียนได้ดีเรียบร้อยต่อไปภายน่าได้อย่างไร
ก็ให้เจ้าพนักงานผู้เปนธุระดูแลนักเรียน มีใบบอกเพิ่มเติมตามข้อนั้นหาฤาเข้ามายังกรุงเทพฯ
ตามเหตุตามการที่เหนว่าจำเปนที่จะต้องเพิ่มเติม ให้สมควรแก่การเล่าเรียนนั้นต่อไปอย่างไร
จะได้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบใต้ฝ่าพระบาท
จะได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตเพิ่มเติมตามสมควรแก่การเล่าเรียน
ข้อ ๑๑ ว่า กฎหมายข้อบังคับนี้ ราชทูตฤาผู้แทนทูตสยามต้องรักษา
ทำตามน่าที่ตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น
แลนักเรียนคนไทยทั้งหลายที่ทรงพระกรุณาโปรกเกล้าฯ ให้ออกไปเล่าเรียนอยู่ ณ
ประเทศยุโรปทุก ๆ คนต้องประพฤติแลทำตามกฎหมายข้อบังคับนี้ทุกประการ
ข้อบังคับนี้โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้นไว้แต่ ณ วันจันทร์
ที่ ๖ มกราคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ เปนวันที่ ๗๗๒๗ ในรัชกาลปัตยุบันนี้
(ราชกิจจานุเบกษา
เล่มที่ ๖ แผ่นที่ ๔๔ วนที่ ๒ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ หน้า ๓๗๙ – ๓๘๑)