Search This Blog

Showing posts with label ญี่ปุ่น. Show all posts
Showing posts with label ญี่ปุ่น. Show all posts

Wednesday, January 8, 2020

หัวหน้าโกรธได้ แต่ผู้นำโกรธไม่ได้หรือ : ボスは怒られるけれど、リーダーは怒られない?

นี่เป็นคำถามที่หลายท่าน สงสัยมากว่า ความโกรธ อารมณ์โกรธ หรือการโมโห
これ問題「怒ること、怒る気持ち」について、疑問している人は多いそうです。
หัวหน้าสามารถแสดงอารมณ์โกรธได้ แต่ผู้นำไม่สามารถแสดงความโกรธได้ นั้นจริงหรือไม่ 
『ボスは怒る気持ちの表すことがでできるれど、リーダーはできないことは本当でしょう?』


ไม่ว่า ผู้นำ หรือ หัวหน้า ต่างเป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีความโกรธ
อันเป็นอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ 
ボスでも、リーダーでも、一般人と皆さんよく知られて、怒ることは人間の基本感情と言われる。

หัวหน้า แสดงความโกรธได้ แสดงความไม่พึงพอใจได้ 
ボスはもちろん怒られる、不満できない気持ちは表すこともできる。

ผู้นำ แสดงความโกรธได้ แสดงความไม่พึงพอใจได้เช่นกัน 
リーダーももちろん怒られる、不満できない気持ちも表すこともできる。

แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การแสดงออกของอารมณ์โกรธ และการยับยั้งความโกรธ
でも、違いは怒る感情の表すことと、お怒ることを停止することができることだ。

โดยให้เหตุผลมาก่อนความโกรธ 
怒る前は、理由とサッキ考えよう。

ผู้นำ ต้องมีความเยือกเย็น สุขุม และนิ่งเมื่ออยู่ในสภาวะโกรธ
リーターは大人しやかだので、怒る際に、穏やかさと強さは、気づくところとなった。

โดยใช้หลักแห่งเหตุผลเข้ามาบรรเทา หรือไม่ตอบโต้ใด ๆ
理由を使用して、争わない。

ใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหวของความโกรธ
プレッシャーがあっても冷静である。

หัวหน้า อาจจะไม่สนใจที่จะระงับความโกรธ อาจแสดงออกทางสีหน้า
ボスは怒ることを止まることの気にしない。怒る顔色を出す。

จบ
終わり

Tuesday, August 28, 2018

บทความวิจัย เรื่อง TNI e-Dictionary






งานวิจัยชิ้นนี้ผมเป็นเพียงผู้มีส่วนร่วมในการแปลคำศัพท์ด้านธุรกิจภาษาไทย-ญี่ปุ่น-อังกฤษ และรวบรวมคำศัพท์วิศวยานยนต์เพียงส่วนหนึ่ง จึงถือว่าอาจมีส่วนร่วมหรือส่วนได้ส่วนเสียกับงานชิ้นนี้ไม่มากนัก หากจะอ่านเพิ่มเติมเข้าดูได้ที่ 

Saturday, August 13, 2011

วิจารณ์หนังสือ : เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยญี่ปุ่น 3 โดย พงศกร ประทุมวงษ์

 

วิจารณ์หนังสือ : เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยญี่ปุ่น 3

ชื่อ.......................[1]

เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยญี่ปุ่น 3    เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยญี่ปุ่น 3_b

 

หนังสือ : เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยญี่ปุ่น 3

ผู้แต่ง: พงศกร ประทุมวงษ์

ISBN: 978-974-7084-88-7

สำนักพิมพ์: Tip Thai Inter Book

 

เล่มนี้เป็นเล่มที่ 3 เน้นการท่องเที่ยวจากโตเกียวขึ้นเหนือ สู่เกาะฮอกไกโด

ถ้าเทียบกับหนังสือแนวเดียวกันเล่มอื่นๆ หนังสือเล่มนี้มีดีตรงที่ไม่ได้มีแต่การเอารูปมาแปะๆๆให้เต็มหน้ากระดาษไปหน้าๆเท่านั้น แต่ยังมีเนื้อหาการเดินทางและเกร็ดข้อมูลเสริมความรู้อื่นนอกจากเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมอีกด้วย เช่น การจองที่พัก การเดินทางโดยรถไฟ และการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ

ผู้เขียนเริ่มต้นหนังสือตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมตัวเดินทาง ถึงมันจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่คิดจะเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรกบ้างก็ตาม แต่ในความรู้สึกของคนที่เดินทางบ่อยๆมันเป็นความซ้ำซากและไม่ชวนติดตามเอาซะเลย

ในส่วนของการเดินทางจากเมืองไทยในตอนค่ำไปถึงญี่ปุ่นเช้าพอดี  แล้วก็เที่ยวต่อเลยโดยมุ่งหน้าไปเยือนถิ่นเจ้าแม่กวนอิ่ม แล้วเดินทางไปต่อที่เขตทามะ และเที่ยวสวนสนุกซานริโอ้ พูโรแลนด์แค่วันแรกที่มาก็ใช้เวลาคุ้มค่ามาก และในระหว่างการเดินทางไปที่ต่างๆก็แนะนำร้านอาหารอร่อยๆให้อีกด้วย วันที่สอง ไปต่อที่นิกโก้ วันที่สาม เดินทางไปที่เซ็นได วันที่สี่ไปต่อที่เมืองมัสึชิม่าเมือง 300 เกาะวันที่ห้า ดินแดนเหนือสุดของเกาะใหญ่อาโอโมริ วันที่หก ฮาโกดาเตะ วันที่เจ็ด คลองโอตารุ วันที่แปด ซัปโปโรถิ่นกำเนิดราเมง วันที่เก้าบุกถิ่นเกี๊ยวซ่าอุสึโนะมิยะ วันที่สิบ ไปชอปปิ้งย่านชิจูกุ แล้วเดินทางกลับมายังเมืองไทย

 เนื่องจากหนังสือเล่มนี้เขียนในลักษณะบันทึกประจำวันของวันที่อยู่ในช่วงของการเดินทาง มากกว่าจะเรียกว่าเป็นบันทึกการเดินทาง ดังนั้นข้อความบนหน้าปกหนังสือเล่มนี้ที่ปะหน้าไว้ว่า "เนื้อหาอ่านสนุกเจาะลึกทุกรายละเอียดการเดินทางจริง" จึงถูกต้องในความหมายหนึ่ง คือเป็นการเดินทางจริงของผู้เขียน แต่อีกนัยหนึ่งก็คือเป็นการเดินทางของคนเพียงคนเดียว ที่ยากจะให้อีกหลายๆคนทำตามได้เหมือน หนังสือเล่มนี้จึงให้ได้เพียงแค่แนวทางอย่างที่ผู้เขียนเกริ่นไว้ที่ปกในว่า "ผมหวังว่าประสบการณ์ตรงและข้อมูลเสริมในหนังสือเล่มนี้ (รวมถึงเล่มที่ผ่านมา) จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับท่านผู้อ่านที่อยากเดินทางไปญี่ปุ่นบ้างไม่มากก็น้อย และหวังว่าเรื่องเล่าจากที่ผมประสบพบเจอจะช่วยสร้างความบันเทิงให้กับทุกท่านนะครับ แต่มิใช่การตามรอยเท้าผู้เขียนแน่นอน

ยอมรับว่าหนังสือเล่มนี้พาไปพบกับสถานที่ท่องเที่ยวได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ขนาดตัวดิฉันเองที่คิดว่าในญี่ปุ่นเป็นประเทศเล็กๆคงมีที่เที่ยวไม่เยอะหรอก แต่พอหลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบยังเกิดความมั่นใจว่าจะสามารถวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นในเมืองต่างๆที่หนังสือได้แนะนำเยอะแยะเลยทีเดียว นับเป็นข้อดีข้อแรก ข้อดีข้อที่สองเนื่องจากผู้เขียนไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ แต่การที่สามารถไปและเอาตัวรอดกลับมาเขียนถ่ายทอดประสบการณ์เป็นหนังสือเล่มนี้ได้นั้น น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้สำหรับผู้ที่คิดอยากจะเดินทางไปญี่ปุ่น แต่ยังกลัวๆกล้าๆในเรื่องของภาษาหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งประการหลังเป็นความเชื่อที่ผิด และในครั้งนี้ผู้เขียนได้เดินทางไปญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 3 ไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไปแต่กลับคล่องแคล่วแล้วดูชำนาญมากขึ้น

แต่อย่างที่ได้บอกไว้ในตอนแรก ว่าหนังสือเล่มนี้เขียนตามประสบการณ์จริงของผู้เขียน ในเล่มแรก ผู้เขียนมักหลงทาง และไม่ค่อยได้อธิบายวิธีการแก้สถานการณ์ว่าหลงแล้วกลับทางเก่าไปต่อได้อย่างไร แต่ในเล่มที่ 3 นี้ ผู้เขียนเริ่มมีความชำนาญมากขึ้น จึงไม่หลงทางสามารถไปถึงเป้าหมายที่ต้องการไปได้ ดิฉันจึงคิดว่าเล่มที่ 3 นี้ น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่เคยเดินทางไปญี่ปุ่นก็สามมารถไปได้ เพียงแค่นำหนังสือเล่มนี้ติดตัวไปด้วย ก็เหมือนได้เพื่อนร่วมทางที่มีประสบการณ์เดินทางไปด้วยอย่างแน่นอน



[1] นักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจญี่ปุ่น คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น

Monday, August 11, 2008

QR CODE “2 Dimensional Barcode” โดย สุทธินันท์ รุจิรพิพัฒน์

QR CODE “2 Dimensional Barcode”

QR CODE เป็นโค้ดเมทริกชนิดหนึ่ง สร้างโดยบริษัทญี่ปุ่น Denso-Wave ในปี 1994 คำว่า “QR”ย่อมาจาก “Quick Response”เนื่องจากผู้สร้างมีจุดประสงค์ให้โค้ดสามารถทำการถอดรหัสได้ด้วยความเร็วสูง QR CODE เป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น ใช้เก็บ URL หรือ Address ของ Website ต่างๆโดยเราสามารถนำมือถือมาแสกน,ถอดรหัสบาร์โค้ดดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆได้นานัปการ

สำหรับประเทศไทยนั้นยังไม่มีแผนการที่จะนำเข้าระบบ QR CODE มาใช้กันอย่างเต็มรูปแบบ อาจเนื่องมาจาก ประเทศไทยยังไม่มีความพร้อมมากพอสำหรับเทคโนโลยีนี้ อีกทั้ง ยังไม่มีความจำเป็นมากพอที่จะเปลี่ยนให้บริษัทผู้นำด้านโทรศัพท์มือถือได้หันมาโฆษณาเพื่อนำไปสู่การนำไปใช้อย่างจริงจัง นอกจากนั้นแล้ว ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ยังไม่เห็นความสำคัญของระบบนี้ อาจกล่าวได้อีกนัยนึงว่าเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตไร้สายบนมือถือของประเทศไทยยังไม่เป็นที่นิยมเท่าอินเตอร์ความเร็วสูงตามร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่หรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงตามบ้านที่พักอาศัยนั้นเอง

QR CODE เมื่อเทียบกับบาร์โค้ดธรรมดาที่เราเห็นตามฉลากสินค้ามีจุดประสงค์เพื่อการนำไปใช้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  QR CODE ถูกออกแบบมาให้ถูกถอดรหัสได้ที่ความเร็วสูง และยังสามารถเก็บข้อความ Web Address หรือ URL ซึ่งเป็นสิ่งที่บาร์โค้ดธรรมดาไม่สามารถทำได้  เพียงแค่ผู้ใช้มีโทรศัพท์มือถือพร้อมกล้องและโปรแกรมที่จำเป็นก็สามารถถอดรหัส QR ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเข้ารหัสข้อความ หรือสร้างโค้ดขึ้นมาเองได้อย่างง่ายดาย


นายสุทธินันท์  รุจิรพิพัฒน์

51121104-7

รายวิชาภาษาญี่ปุ่น สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น