ท่านเชื่อไหมว่า การเป็นหัวหน้าที่ยากเเล้วแต่การเป็นผู้นำนี่ยากเสียยิ่งกว่า
ผู้นำสามารถเป็นหัวหน้าได้ ในขณะที่หัวหน้าทุกคนเป็นผู้นำไม่ได้
ผู้นำ มีความหมายเชิงบวกมากกว่า หัวหน้า จริงไหมครับ
หลายต่อหลายคนฝันอยากจะเป็นหัวหน้าซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดขององค์หรือในหน่วยงานที่รับผิดชอบ มากกว่าฝันที่จะเป็นผู้นำ
แน่นอนว่าทั้งสองหน้าที่นี้มีความเหมือนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะ
"ผู้นำได้รับความเคารพยกย่องศรัทธา ในขณะที่หัวหน้าเป็นที่รังเกียจจากลูกน้อง"
"ผู้นำดูแลและบริการลูกน้องเหมือนญาติมิตร แต่หัวหน้ามักให้ลูกน้องเอาใจ"
ผู้นำปฏิบัติตนทั้งแต่หน้าและลับหลังด้วยความรู้สึกสำนึกถึงความรับผิดชอบต่อทุกการกระทำไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ส่วนหัวหน้าสนใจเพียงผลลัพธ์ของการกระทำโดยไม่สนใจกระบวนของการได้มาซึ่งผลลัพธ์ ไม่สนใจว่าใครจะได้รับผลกระทบ แต่เรื่องดีขอรับหน้าไว้ก่อน
แล้วเรามีวิธีการแยกแยะความต่างระหว่างผู้นำกับหัวหน้าได้อย่างไร
ผู้เขียนมีข้อสังเกต 7 อย่างในการแยกแยะ คือ
1. ผู้นำชี้แนะมากกว่าบังคับให้ทำ
ผู้นำวางตัวเป็นกลางคอยให้คำแนะนำ ชี้แนะในการปฏิบัติงานช่วยคิดช่วยทำไปกับลูกน้อง ให้โอกาสลูกน้องทำงานตามความสามารถอย่างเต็มที่ หากลูกน้องทำไม่ได้อาจหาแนวทางว่า จะสอนให้ลูกน้องทำงานได้อย่างไรต่อองค์กร ลูกน้องไม่ชอบการบังคับ ยิ่งเด็กรุ่นใหม่หากโดนบังคับจิตใจเพียงนิดจะเเสดงการต่อต้านให้เห็นทันที ผู้นำจะมอบกรอบเวลาให้ลูกน้องทำงานโดยไม่ก้าวก่าย หัวหน้ามักชี้นิ้วเขียนกฎมาให้ทำตามโดยไม่สนใจความเป็นมนุษย์ผู้ที่จะเกิดความผิดพลาดได้ตลอดเวลา
นายพลวางแผนนำทัพออกรบ ในสนาบรบที่เหล่าทหารหาญกำลังเสียขวัญและขาดกำลังใจ ท่านจะเลือกนำทัพเองร่วมรบกับเหล่าทหาร หรือจะนั่งบัญชาการในกองทัพ
2. ผู้นำจะฟังและพูดมากกว่าสั่ง
หัวหน้าชอบสั่งและสั่งสอนในสิ่งที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ตามอำเภอใจ เพื่อให้ลูกน้องรู้สึกว่ามีฐานะตำแหน่งที่ด้อยกว่า ส่วนผู้นำใช้การฟังเพื่อรับฟังความคิดเห็นและเหตุผลของลูกน้อง อาจเสียเวลาฟังทั้งเรื่องไร้สาระหรือข้อแก้ตัว ผู้นำจะตั้งใจฟังและให้ความเคารพต่อความคิดเหล่านั้น นำความคิดเห็น ข้อวิจารณ์ต่างๆ มารับฟัง เปิดใจ ให้คำแนะนำปรึกษา เพื่อให้ลูกน้องให้ความไว้วางใจที่จะเป็นผู้ตามที่ดี
3. ผู้นำจูงใจมากกว่าทำให้หวาดกลัว
เมื่อมีการทำงานร่วมกันสักหนึ่งโปรเจ็คเพื่อเข้าประกวด ผู้นำจะพยายามเฟ้นหาคนที่เหมาะสม และกระตุ้นให้ลูกน้องอยากทำงานนี้ร่วมกัอย่างตั้งอกตั้งใจ มีเป้าหมายชัดเจน วางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ เป้าหมายของงานชิ้นนี้สำหรับผู้นำคือ ความสมานสามัคคีของทีมที่ได้ร่วมกันทำงาน มีความหวังถึงชัยชนะแต่หากไม่สำเร็จก็พยายามชี้ให้เห็นคุณค่าที่เกิดระหว่างการทำงาน โดยไม่ติหนิหรือโทษใคร หัวหน้ามุ่งเป้าเพื่อชัยชนะ ไม่เผื่อใจสำหรับความพ่ายแพ้ หากชนะก็รับความดีความชอบคนเดียว หากแพ้ก็โทษทีม หัวหน้ามักกระตุ้นลูกน้องด้วยการข่มขู่ ให้เกิดความกดดันเกรงกลัวต่อคำว่าพ่ายแพ้เเละชี้ให้เห็นผลลบที่จะเกิดขึ้น จึงไม่สนใจกระบวนการของการที่จะประสบความสำเร็จ
4. ผู้นำสอนและเรียนรู้มากกว่าคาดหวังและเพิกเฉย
ผู้นำที่แท้จริงเป็นบุคคลที่มีความเคารพต่อตนเองสูง ไม่โอ้อวดถือตัว ไม่รู้สึกอับอายที่จะบอกว่า "ไม่รู้" ในสิ่งที่ตนไม่รู้ พร้อมที่จะ "เรียนรู้" ไม่ว่าจะเรียนจากบุคคลที่ฐานะต่ำต้อยกว่าก็ตาม และเข้าใจดีว่า ไม่สายที่จะเรียน ผู้นำจะทุ่มเทให้ลูกน้อง พร้อมที่จะศึกษาเรียนรู้ไปกับลูกน้องเสมอ เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ
หัวหน้ามักเพิกเฉยต่อคำวิจารณ์เชิงลบ ชอบอวดความสามารถของตนเองให้ผู้อื่นได้เห็น ชอบเฉพาะการสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดี ทำตัวรู้ทุกเรื่อง ไม่ชอบให้ลูกน้องรู้มากกว่าตนเอง และมักไม่สนับสนุนความก้าวหน้าทางสติปัญญาแก่ลูกน้อง
5.ผู้นำมีส่วนร่วมในงานมากกว่าคอยกำกับอยู่ข้าง ๆ
ผู้นำมักนำตัวเองลงทำงานกับทีมด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรร มีห้าที่คอยแนะนำและส่งเสริมกิจกรรมของทีมให้ดำเนินได้อย่างสะดวกราบรื่น ช่วยคืด ช่วยทำ ช่วยส่งเสริม แต่หัวหน้ามักเป็นผู้ที่คอยดูอยู่ห่าง ๆ รอเพียงผลลัพธ์ของกิจกรรม ไม่ช่วยคิด ไม่ลงมือทำ และไม่คอยอำนวยความสะดวกแก่ทีม
6. ผู้นำจะติเตียนมากกว่าดุด่า
ผู้นำเป็นเหมือนมนุษย์ทั่วไปที่ต้องมีอารมณ์โกรธ เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องติลูกน้อง ผู้นำจะไม่ดุด่าลูกน้องต่อหน้าอื่น หรือเมื่ออยู่ส่วนตัวก็ตาม ผู้นำเข้าใจดีว่าเขากำลังทำงานกับคน และไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะทำให้ขายหน้าผู้อื่น ผู้นำมีชั้นเชิงในการติเตียนโดยปราศจากความโกรธเคืองหรือความไม่ชอบใจส่วนตัว จะติเตียนเฉพาะในเรื่องงานเท่านั้น
7. ผู้นำให้ความสำคัญของความเป็นมนุษย์มากกว่ายึดติดกับยศตำแหน่ง
ผู้นำจะมองข้ามความเป็นชนชั้น ปฏิบัตรต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียม ทำตัวให้ลูกน้องจับต้องได้ วิจารณ์ได้เพราะเข้าใจดีว่ามนุษย์มีความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ พอใจ ไม่พอใจเป็นเรื่องปกติธรรมดา ผู้นำสามารถยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า หรือยกมือไหว้ผู้อื่นก่อนโดยไม่คำนึงว่าเขาจะตำแหน่งอะไร ไม่ชอบขี้หน้า หรือเป็นศัตรูคู่แข่ง ซึ่งผู้นำกลับจะได้ความยำเกรงเป็นการตอบแทน
ผู้นำเห็นแม่บ้าน พนักงานทำความสะอาดกำลังทำกวาดพื้น ผู้นำจะรีบกล่าวทักทายมากกว่าจะจดจ้องชี้จุดที่แม่บ้านยังไม่กวาด หรือจะคอยจับผิดว่าแม่บ้านทำความสะอาดไม่ดี
ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนจากประสบการณ์จริงและได้ศึกษาค้นคว้า อาจจะไม่ตรงใจผู้อ่านทุกข้อ แต่หวังว่าจะเป็นแนวทางเล็กเพื่อสังเกตว่า หัวหน้าของคุณเป็นผู้นำหรือไม่
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากตรงนี้นะครับ