Search This Blog

Saturday, August 5, 2023

Eldorado : ไนต์คลับ Eldorado ตั้งอยู่ในย่านเชินเนอแบร์ก เป็นสถานที่ที่ชุมชนเกย์ เลสเบี้ยน และคนข้ามเพศสมัยนาซี

"Eldorado: Everything the Nazis Hate" เป็นภาพยนตร์สารคดีที่กำกับโดย Benjamin Cantu ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของชุมชน LGBTQ+ ในกรุงเบอร์ลินช่วงทศวรรษ 1920 โดยมีไนต์คลับ "Eldorado" เป็นศูนย์กลาง ภาพยนตร์นี้สำรวจความรุ่งเรืองและความเสื่อมถอยของเสรีภาพทางเพศในยุคนั้น รวมถึงผลกระทบจากการขึ้นสู่อำนาจของพรรคนาซี


ไนต์คลับ Eldorado ตั้งอยู่ในย่านเชินเนอแบร์ก เป็นสถานที่ที่ชุมชนเกย์ เลสเบี้ยน และคนข้ามเพศมารวมตัวกัน เพื่อแสดงออกถึงตัวตนและเสรีภาพทางเพศ ที่นี่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก สร้างบรรยากาศของความหลากหลายและความเปิดกว้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคนาซีขึ้นสู่อำนาจ สถานที่เหล่านี้ถูกปิดตัวลง และชุมชน LGBTQ+ ต้องเผชิญกับการกดขี่และการประหัตประหาร

สารคดีนี้ใช้ฟุตเทจเก่าและการสัมภาษณ์ผู้ที่มีประสบการณ์ตรง เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของบุคคลสำคัญในยุคนั้น เช่น Magnus Hirschfeld นักเพศวิทยาที่เป็นผู้บุกเบิกการดูแลสุขภาพสำหรับคนข้ามเพศ และ Ernst Röhm สมาชิกพรรคนาซีที่เป็นเกย์ ซึ่งถูกสังหารโดยระบอบที่เขาช่วยสร้างขึ้น ภาพยนตร์นี้ยังสำรวจบทบาทของกฎหมาย Paragraph 175 ซึ่งใช้ในการกดขี่ชุมชนเกย์ในเยอรมนี ทั้งในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

"Eldorado: Everything the Nazis Hate" ไม่เพียงนำเสนอประวัติศาสตร์ของชุมชน LGBTQ+ ในเบอร์ลิน แต่ยังเป็นการเตือนใจถึงความเปราะบางของเสรีภาพและความสำคัญของการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ภาพยนตร์นี้ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ว่าเป็นการนำเสนอประวัติศาสตร์ที่เข้าถึงได้และมีพลัง ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของการไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวของชุมชน LGBTQ+ ในยุโรปช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง "Eldorado: Everything the Nazis Hate" เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากให้ภาพรวมที่ชัดเจนและลึกซึ้งเกี่ยวกับความรุ่งเรืองและความท้าทายที่ชุมชนนี้ต้องเผชิญ และเป็นการย้ำเตือนถึงความสำคัญของการรักษาและปกป้องเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนในสังคมปัจจุบัน

----------

วันที่ 2 ธันวาคม 2567

วันนี้ผมย้อนกลับไปชมสารคดี "Eldorado: Everything the Nazis Hate" อีกครั้ง ภาพยนตร์ที่ทำให้เห็นภาพความรุ่งเรืองของชุมชน LGBTQ+ ในกรุงเบอร์ลินช่วงปี 1920 ก่อนที่ทุกสิ่งจะถูกกลืนหายไปในยุคมืดแห่งการปกครองของพรรคนาซี Eldorado ไม่ใช่เพียงไนต์คลับ แต่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่ผู้คนหลากหลายเพศสภาพสามารถแสดงตัวตนอย่างเสรี ท่ามกลางความหลากหลายและสีสันของเมืองที่เปล่งประกายที่สุดในยุโรปตอนนั้น

เมื่อคิดถึงประเด็นนี้ในบริบทปัจจุบัน ผมเริ่มวิเคราะห์ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติปี 2023 ซึ่ง Eldorado และเรื่องราวของมันเชื่อมโยงได้อย่างลึกซึ้งกับเป้าหมายหลายข้อ

SDG 5: ความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality)
Eldorado สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างพื้นที่ที่ทุกเพศสภาพได้รับการยอมรับ แม้ในยุคที่สังคมเต็มไปด้วยอคติและการกดขี่ ชุมชน LGBTQ+ ในเวลานั้นเป็นตัวอย่างของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ซึ่งเป็นหัวใจของ SDG 5 การสร้างพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และการลดการเลือกปฏิบัติ ถือเป็นแนวคิดที่ยังคงมีความสำคัญในโลกปัจจุบัน

SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ (Reduced Inequalities)
เรื่องราวของ Eldorado เป็นตัวแทนของความพยายามลดความเหลื่อมล้ำในสังคมยุคนั้น แม้ว่ามันจะถูกทำลายลงในภายหลัง การยกย่องความหลากหลายทางเพศและความพยายามสร้างสังคมที่คนทุกกลุ่มมีโอกาสเท่าเทียม คือแนวทางที่ SDG 10 มุ่งเน้น

SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice, and Strong Institutions)
การล่มสลายของ Eldorado ภายใต้ระบอบเผด็จการนาซีเป็นบทเรียนสำคัญของการขาดสถาบันที่ปกป้องสิทธิมนุษยชน SDG 16 จึงเรียกร้องให้เราสร้างกลไกที่ช่วยปกป้องสิทธิและเสรีภาพ เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย Eldorado เตือนให้เราระลึกถึงความเปราะบางของเสรีภาพและหน้าที่ของเราที่จะรักษามันไว้

SDG 11: เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities)
เบอร์ลินในยุค 1920 เป็นตัวอย่างของเมืองที่เปล่งประกายด้วยวัฒนธรรม ความหลากหลาย และความสร้างสรรค์ Eldorado ช่วยสร้างพลวัตทางสังคมที่หล่อหลอมเมืองนี้ SDG 11 เน้นให้เราออกแบบเมืองและชุมชนที่เปิดกว้าง ยั่งยืน และไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เมื่อคิดถึง Eldorado และบริบทของ SDGs มันทำให้ผมตระหนักว่า เรื่องราวในอดีตสามารถให้แรงบันดาลใจในการสร้างอนาคตได้ หากเราเรียนรู้และลงมือทำเพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนได้รับการยอมรับ เคารพ และปกป้อง ผมหวังว่า Eldorado จะเป็นบทเรียนและแสงสว่างที่ช่วยชี้นำเราในเส้นทางนี้


ณัฐพล จารัตน์

กรุงเบอร์ลิน








Wednesday, August 2, 2023

หน้าตาตั๋วรถไฟแบบระยะสั้นในเบอร์ลิน 4-Fahrten-Kurzstrecke








From Microsoft Bing Chat GPT;
I’m sorry but I couldn’t find any summary of the link you sent me. However, I found a website that explains the 4-Fahrten-Karte Kurzstrecke in Berlin-Brandenburg area. It is a special ticket that allows you to travel four times on short distances at a reduced price. You can buy it quickly and easily at the ticket machines. You can find more information about the tariff and its benefits on this website: https://sbahn.berlin/tickets/alle-tickets/einzelfahrausweise-tageskarten/4-fahrten-karte-kurzstrecke/. I hope this helps! 😊

Thursday, July 27, 2023

หนังสือขอเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ผมได้รับพระอนุญาตให้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชฯ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ยังความปราบปลื้มและเป็นสิริมงคลแก่ผมและครอบครัวอย่างยิ่ง นับเป็นพระกรุณาธิคุณและพระเมตตาเป็นล้นพ้น

การจะขอพระอนุญาตเข้าเฝ้าเป็นเรื่องที่พุทธศาสนิกชนและคนไทยอยากจะเข้าถึงพระองค์อย่างใกล้ชิด ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระสังฆราช ในวาระวันสำคัญทางพุทธศาสนา ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร แต่ด้วยสถานการณ์โรคระบาคโควิด จึงมีมาตรการคัดกรองและต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด

ประชาชนทั่วไปจะเรียกพระองค์จนติดปากว่า “สมเด็จพระสังฆราช” พระนามอย่างเป็นทางการของพระองค์ คือ “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” พระนามเดิม คือ อัมพร ประสัตถพงศ์ และฉายา อมฺพโร เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงเริ่มดำรงตำแหน่งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 และทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร อีกด้วย

ผมเห็นข่าวจากสื่อสารมวลชลทั้งทางโทรทัศน์ Facebook twitter หรือสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะข่าวบันเทิง มักจะมีข่าวการเข้าขอพรสมรสจากสมเด็จพระสังราชเป็นเนือง ๆ ทำให้คิดว่า เราก็สามารถเข้าได้สิ แต่จะมีขั้ตอนอย่างไรถึงจะไปเข้าเฝ้าได้ นี่เป็นข้อคำถามที่ต้องหาคำตอบ

ผมเสริช google ก็ไม่เห็นจะมีแนวทางใด ๆ บอกได้อย่างเป็นรูปธรรม จนกระทั่งวันหนึ่งอยากไปร้านกาแฟชื่อ อิ่มในเมือง เป็นร้านที่ตกแต่งจากโรงพิมพ์เก่า ๆ บรรยากาศและกลิ่นไอความเก่าของตึก ที่สำคัญร้านคาแฟ่นี้อยู่ตรงข้ามกับวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร แค่ข้ามถนนก็ถึงวัด หรือมองจากหน้าต่างของคาแฟ่ก็เห็นฉากทัศน์และวิวของวัดดังภาพภาย 3 มิติทะลุจอออกมาได้จริง

ผมจึงคิดว่าลองเดินเข้าไปถามพระในวัดดูดีกว่า ถ้าอยากจะมาเข้าเฝ้าจะต้องทำอย่างไร หลังจากกินกาแฟนที่ร้านอิ่มในเมืองเสร็จ เดินข้ามถนนเข้าวัด เดินหาพระ มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นพระสักรูป เดินไปเดินมาเห็นป้ายบอกทางชี้ไปว่า สำนักเลขานุการ สมเด็จพระสังฆราช จึงลองเดินตามป้ายเข้าไป ได้มาพอป้อมหรือห้องกระจกของสำนักงานฯ และเป็นที่สะดุดตากับตัวอย่างหนังสือขอเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ปิดอยู่ที่หน้ากระจก ดูได้จากภาพที่ผมถ่ายมานะครับ



ตัวอย่างหนังสือหรือแบบฟอร์มหนังสือ ดังนี้

ที่อยู่ ................................................

เรื่อง        ขอประทานพระวโรกาสเฝ้าถวายสักการะ (หรือเรื่องอื่น ๆ)

นมัสการ   เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

(ย่อหน้าที่ ๑) เนื้อความ ................................................. แนะนำตัว ข้อมูลโดยสังเขป
เป็นใครหรือหน่วยงานอะไร มีประวัติหรือความเป็นมาอย่างไร, กำลังจะทำอะไร วัตถุประสงค์
เพื่อ............................ (ในกรณีที่จะขอประทานพระเมตตาหรือกราบทูลอาราธนา)

            (ย่อหน้าที่ ๒) มีความประสงค์อะไร............................. เช่น ขอเฝ้าถวายสักการะ
เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ............................ (ระบุเหตุผล
การขอเฝ้าฯ และรายชื่อผู้เฝ้าด้วย จำนวนคณะไม่เกิน ๒๐ ราย เนื่องจากสถานที่จำกัด) ........................ วันเวลา แล้วแต่จะทรงโปรด, ขอประทานพระเมตตาในเรื่องต่าง ๆ หรือ ขอประทานกราบทูลอาราธนา (ระวัน เวลา สถานที่ และร่างกำหนดการ) ฯลฯ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ (ชื่อผู้ประสานงาน) ........ หมายเลขโทรศัพท์ ............. เป็นผู้ประสานงาน


            กราบนมัสการมาเพื่อนำความกราบทูลทราบฝ่าพระบาท

                                                นมัสการมาด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

                                                   ลงลายมือชื่อ ...........................

                                                              (ชื่อตัวบรรจง)

 

ผมจึงรีบร่างหนังสือตามตัวอย่างและแนบรายชื่อผู้จะติดตามเฝ้าด้วย รายชื่อผู้ที่จะติดตามเฝ้าด้วยนั้น ควรทำเป็นตารางบอก คำนำหน้าที่ถูกต้องตามระเบียบหนังสือราชการ ข้อแนะนำของผม ดังนี้


- บุคคลทั่วไปใช้ นาย นาง นางสาว เด็กชาย เด็กหญิง

- ทหาร ตำรวจ รวมถึงอาสารักษาดินแดนอันเป็นยศพระราชทานให้ระบุชั้นยศ

- ศาสตราจารย์ (ศ.) เป็นตำแหน่งโปรดเกล้า อนุโลมเขียนนำหน้าได้

- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) รองศาสตราจารย์ (รศ.) เป็นตำแหน่งทางวิชาการ ให้ระบุเป็น นาย นาง นางสาว

- ผู้จบการศึกษาระดับปริญญาเอกที่นิยมเขียน ดร. ให้ระบุเป็น นาย นาง นางสาว

- ระบุสังกัด หน่วยงาน

- ระบุตำแหน่ง

- ต้องเขียนด้วยเลขไทย ขนาดอักษร ๑๖ ชุดแบบอักษร Saraban หรือ จุฬาภรณ์ลิขิต (ชุดแบบอักษรของราชการ)


ทำเป็นตารางแนบท้ายหนังสือ ดูตัวอย่างครับ

 

รายชื่อผู้ขอเฝ้า

ลำดับ

คำนำหน้านาม

ชื่อ-นามสกุล

ตำแหน่ง

หน่วยงาน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ในส่วนท้ายหากผู้ขอเฝ้าต้องการถวายพานดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าไตร พวงมาลัยดอกไว้ ให้เขียนระบุเป็นหมายเหตุ เผื่อให้สำนักเลขานุการ สมเด็จพระสังฆราช ทราบและให้คำแนะนำการเตรียมถวายพานพุ่มดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าไตร พวงมาลัยดอก

\
พานธูปเทียนที่นำไปถวาย (ราคาพอสมควรมากครับ)


ถวายผ้าไตรและอื่น ๆ 

นอกจากนี้ เรื่องการแต่งกาย หลายท่านก็ถามมาเช่นกัน ขอเรียนอย่างนี้ว่า การเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชไม่ได้กำหนดว่าจะแต่งกายอย่างไร ควรเหมาะสมตามกาลเทศะ เช่น สวดชุดผ้าไทย ชุดซาฟารีพระราชทาน ทหารตำรวจหรือข้าราชการแต่งเครื่องแบบ หากเป็นโอกาสสำคัญของข้าราชการอาจใส่ชุด
ขาวหรือชุดขอเฝ้าสำหรับประชาชนทั่วไป ควรสมรองเท้าและถุงเท้า หากสวมเสื้อผ้าสี ควรเป็นสีไม่ถูกฉาด สำหรับผู้หญิงควรมัดรวบผมให้เรียบร้อย ไม่ควรฉีดพรมน้ำหอมกลิ่นแรงหรือฉีดพรม ตัดเล็บ ปิดโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

การถ่ายภาพนั้น จะมีช่างภาพของสำนักเลขานุการ สมเด็จพระสังฆราชเป็นผู้ถ่ายภาพเพียงผู้เดียว ท่านที่ต้องการภาพให้ติดต่อกับช่างภาพเอง รับรองได้ภาพไว ไม่รอนานครับ

เมื่อทำหนังสือเรียบร้อย ท่านส่งหนังสือทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ไปยังสำนักเลขานุการ สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ที่อยู่ของวัดท่านเสริชจากอินเตอร์เน็ตได้ครับ

จากนั้นท่านก็ต้องรออย่างใจเย็น ๆ เพราะเราไม่สามารถกำหนดวันที่อยากจะเฝ้าได้ตามใจปรารถนา ต้องรอท่านโปรดวันเวลามาให้ ในกรณีของผมรอประมาณ 5 เดือน แต่หากเป็นกรณีพิเศษอาจจะเร็วก็ได้ อันนั้นผมไม่สามารถทราบได้

การจะขอเฝ้านั้น สิ่งที่ต้องตระหนักและระลึกถึง คือ อย่าขอเฝ้าหากไม่มีเหตุสมควรและสำคัญมากเพียงพอ เพราะหมายกำหนดการของสมเด็จพระสังฆราชมีมากล้น

หากต้องการเฝ้าสักการะเป็นการทั่วไป ท่านสามารถเฝ้าสักการะได้ทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือน เวลา 09.00 น. ดังประกาศภาพนี้ครับ

 


ข้อความจากประกาศ ดังนี้

ทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือน เวลา ๐๙.๐๐ น.

เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช

เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงบำเพ็ญพระกุศลถวายสังฆทานอุทิศถวาย

เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ

คณะศิษยานุศิษย์และสาธุชน สามารถมาร่วมบำเพ็ญกุศล

และเฝ้าถวายสักการะได้ภายหลังพิธีดังกล่าว

สุดท้ายนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้มีศรัทธาต่อสมเด็จพระสังฆราชและพุทธศาสนา อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนและแนวทางการมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาที่ผ่านล่วงมา โรปดติดต่อทางสำนักเลขานุการ สมเด็จพระสังฆราช เพื่อรับข้อมูลปัจจุบันจะเป็นการดียิ่ง

 

ณัฐพล จารัตน์

กรุงเบอร์ลิน

27.07.2566

วันนี้ฝนตกและอากาศหนาว

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ภาพภายในอุโบสถครับ สวยจริง ๆ