Search This Blog

Saturday, May 4, 2024

ลาเต้กับสวนสาธารณะ Gustav-Mahler-Platz: กุสตาฟ-มาห์เลอร์-พลัทซ์: สวนเล็กที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ในเขตสตีลกลิทซ์

อันที่จริงภาพทั้ง 2 นี้ ถ่ายไว้เมื่อช่วยฤดูใบไม้ร่วงของปีที่แล้ว ลาเต้ชอบที่นี่และบรรยากาศช่วงนั้นมาก มันดูจะชอบสีของใบไม้น้ำตาล ๆ เพราะคงคิดว่าเหมือนสีขนของตัวเองก็เป็นได้

สถานที่ตรงนี้ คือ จัตุรัสกุสตาฟ มาห์เลอร์ (Gustav Mahker Platz) สวนสาธารณะขนาดเล็กที่มีเสน่ห์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1919 ในชื่อ “Platz R” โดย Richard Köhler นักออกแบบสวนที่ประสบความสำเร็จ บ่อน้ำในสวนสาธารณะยังใช้เป็นที่กักเก็บน้ำฝน ในปี 1968 ได้มีการเปลี่ยนชื่อตามนักแต่งเพลงและวาทยากรชาวออสเตรียคนสำคัญ กุสตาฟ มาห์เลอร์ เนื่องจากจัตุรัสดูเหมือนสวนสาธารณะขนาดเล็กมากกว่า จึงไม่มีฟังก์ชั่นตัวแทนเนื่องจากตำแหน่งที่มีการกระจายอำนาจในระบบถนน Dahlem แต่ยังคงใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจระยะสั้นเป็นหลักในปัจจุบัน (Google translate from German)

 

Gustav-Mahler-Platz
Der kleine Park mit viel Charme wurde 1919 als “Platz R” von dem erfolgreichen Gartengestalter Richard Köhler geschaffen. Der Teich im Park wurde von Köhler gleichzeitig als Regenwasser-Rückhaltebecken genutzt. Im Jahr 1968 folgte dann die klangvolle Umbenennung nach dem bedeutenden österreichischen Komponisten und Dirigenten Gustav Mahler. Da der Platz eher wie ein kleiner Park wirkt, hatte er aufgrund seiner dezentralen Lage im Dahlemer Straßensystem keine Repräsentationsfunktion, sondern dient, auch heute noch, hauptsächlich der Kurzzeiterholung. (https://www.berlin.de/ba-steglitz-zehlendorf/ueber-den-bezirk/ortsteile/steglitz/steglitz-1344355.php)

กุสตาฟ-มาห์เลอร์-พลัทซ์: สวนเล็กที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ในเขตสตีลกลิทซ์

กุสตาฟ-มาห์เลอร์-พลัทซ์ เป็นพื้นที่ที่โดดเด่นในเขตสตีลกลิทซ์ กรุงเบอร์ลิน ซึ่งผสมผสานความงดงามของธรรมชาติเข้ากับมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ สวนแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1919 โดยริชาร์ด เคลอร์ (Richard Köhler) นักออกแบบสวนที่มีชื่อเสียง โดยในช่วงเริ่มต้นพื้นที่แห่งนี้รู้จักกันในชื่อ “Platz R” และใช้เป็นอ่างกักเก็บน้ำฝนเพื่อป้องกันน้ำท่วมในบริเวณใกล้เคียง

ในปี 1968 สวนแห่งนี้ได้รับการตั้งชื่อใหม่อย่างเป็นทางการเพื่อเป็นเกียรติแก่กุสตาฟ มาห์เลอร์ (Gustav Mahler) คีตกวีและวาทยกรผู้ยิ่งใหญ่ชาวออสเตรีย การเปลี่ยนชื่อสะท้อนถึงความชื่นชมต่อผลงานและมรดกทางศิลปะของเขา แม้พื้นที่แห่งนี้จะมีขนาดเล็กและไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นพื้นที่สำคัญทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ แต่ก็ทำหน้าที่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับชาวเมืองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ความโดดเด่นของพื้นที่

กุสตาฟ-มาห์เลอร์-พลัทซ์ให้ความรู้สึกเหมือนสวนสาธารณะขนาดเล็กมากกว่าจัตุรัสในเมือง อาคารที่ล้อมรอบสะท้อนถึงความผสมผสานของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย เพิ่มเสน่ห์ให้กับบรรยากาศของพื้นที่

สวนแห่งนี้ยังมีบ่อเล็ก ๆ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำหน้าที่เป็นอ่างเก็บน้ำฝน บ่อดังกล่าวยังคงสร้างความร่มรื่นและเพิ่มชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของการออกแบบสวนในช่วงต้นศตวรรษที่ 20

บทบาทในชุมชน

แม้จะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ใช่จุดศูนย์กลางของระบบถนนในสตีลกลิทซ์ แต่กุสตาฟ-มาห์เลอร์-พลัทซ์มีบทบาทสำคัญในฐานะพื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนและฟื้นฟูพลังใจ ชาวเมืองมักใช้เวลาสั้น ๆ ในสวนนี้เพื่อผ่อนคลาย เดินเล่น หรือนั่งพักบนม้านั่งใต้ร่มไม้

ในบางโอกาส สวนแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมเล็ก ๆ ของชุมชน เช่น การแสดงดนตรีกลางแจ้งหรือการรวมตัวเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษ แม้จะไม่ได้มีความยิ่งใหญ่เท่าสวนสาธารณะขนาดใหญ่ แต่ก็มีความอบอุ่นและเป็นกันเองที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความสงบสุข

ความเชื่อมโยงกับกุสตาฟ มาห์เลอร์

การตั้งชื่อพื้นที่นี้ตามกุสตาฟ มาห์เลอร์ เป็นการยกย่องความสามารถอันโดดเด่นของเขาในฐานะนักสร้างสรรค์ดนตรีระดับโลก แม้เขาจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกรุงเบอร์ลิน แต่บทเพลงและซิมโฟนีของเขาได้สร้างอิทธิพลอย่างลึกซึ้งในโลกดนตรีคลาสสิก และมักถูกนำเสนอในสถานที่สำคัญอย่าง Berlin Philharmonic การตั้งชื่อจึงเป็นการแสดงถึงความเคารพและการเฉลิมฉลองมรดกทางศิลปะที่ยั่งยืน

สวัสดีครับผม

ณัฐพล จารัตน์

Monday, April 29, 2024

Volksbühne Berlin: หน้าต่างสู่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

วันนี้อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนมาก อุณหภูมิ 25 องศา ตั้งใจไปเดินเล่นใกล้ ๆ ร้านแว่น ic!Berlin บริเวณใกล้ ๆ กันนั้นเป็นทีตั้ง Volksbühne Berlin โรงละครที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ของเบอร์ลิน เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ทางวัฒนธรรมและการเมืองที่ซับซ้อนของเยอรมนี ก่อตั้งในปี 1890 ใช้เป็นเวทีสำหรับการแสดงที่หลากหลาย ทั้งละคร การเต้นรำดนตรี และศิลปะการแสดงอื่นๆ ที่สะท้อนถึงเสียงของประชาชนและสื่อสารความคิดทางสังคมและการเมือง ดังจะเห็นได้จากชื่อ Volksbühne แปลว่า People's Theatre


ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20  Volksbühne เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมที่มีอิทธิพล โดยมีการแสดงที่ท้าทายและสะท้อนถึงความเป็นจริงทางสังคม หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองและการแบ่งแยกของเยอรมนี ที่นี่กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนีหรือเยอรมันตะวันออก (GDR) และเป็นเวทีสำหรับการแสดงที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง

หลังจากการรวมเยอรมนีในปี 1990 Volksbühne ยังคงเป็นสถานที่ที่สำคัญสำหรับการแสดงที่มีความหมายทางวัฒนธรรมและทางการเมือง ในยุคของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง โรงละครนี้ยังคงเป็นเวทีสำหรับศิลปินและผู้สร้างสรรค์ที่ต้องการสื่อสารความคิดและความรู้สึกของพวกเขาผ่านงานศิลปะ

ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำหรับการแสดงที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นห้องปฏิบัติการทางความคิดที่ผู้คนสามารถสำรวจและทดลองกับแนวคิดใหม่ ๆ ในขณะที่ยังคงเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ที่ร่ำรวยของคนเยอรมัน อันเป็นสถานที่ที่วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มาบรรจบกัน สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครสำหรับผู้ชมและศิลปิน


ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและความท้าทายทางสังคม Volksbühne Berlin ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไปได้ทางวัฒนธรรมและเป็นพื้นที่สำหรับการสำรวจและการแสดงออกที่ไม่มีขอบเขต มันเป็นสถานที่ที่เราสามารถเรียนรู้จากอดีตและสร้างอนาคตที่เราต้องการเห็น

ในบริเวรนั้น มีจตุรัสชื่อ Rosa-Luxemburg-Platz เป็นสถานที่สาธารณะที่มีรูปทรงสามเหลี่ยมอยู่ในย่าน Scheunenviertel ประวัติศาสตร์ในเขต Mitte ของเบอร์ลิน สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และได้รับการตั้งชื่อใหม่หลายครั้งตามประวัติศาสตร์ของเยอรมนี ได้แก่ Babelsberger Platz, Bülowplatz, และ Horst-Wessel-Platz

ในช่วงหลังการครอบครองของโซเวียต ที่นี้เป็นส่วนหนึ่งของเบอร์ลินตะวันออกที่ควบคุมโดยระบอบคอมมิวนิสต์ ได้รับการตั้งชื่อใหม่เป็น Liebknechtplatz และต่อมาเปลี่ยนเป็น Luxemburgplatz ก่อนที่จะได้รับชื่อ Rosa-Luxemburg-Platz โดยรัฐบาลเยอรมันตะวันออกในปี 1969

Rosa-Luxemburg-Platz โดดเด่นด้วยการมี Volksbühne Berlin และ Karl-Liebknecht-Haus อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของพรรคซ้ายเยอรมัน หรือก่อนหน้านี้คือพรรคคอมมิวนิสต์เยอรมนี (KPD) ถือเป็นศูนย์กลางของคอมมิวนิสต์เยอรมัน และเป็นสถานที่ของการชุมนุมมวลชนครั้งสุดท้ายในเบอร์ลินต่อต้านพรรคนาซีในวันที่ 25 มกราคม 1933 ซึ่งเป็น  5 วันสุดท้ายก่อนที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์จะได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเยอรมนี


Rosa Luxemburg: ผู้หญิงที่ไม่ยอมจำนนต่ออำนาจ

Rosa Luxemburg เป็นชื่อนักต่อสู้คนหนึ่ง เป็นหนึ่งในนักปฏิวัติที่มีอิทธิพลที่สุดในยุคของเธอ และเป็นตัวอย่างของความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและเสรีภาพ ในฐานะนักเขียน นักวิชาการ และนักกิจกรรมทางการเมือง เธอได้สร้างผลงานที่มีอิทธิพลมากมาย รวมถึง “การสะสมทุน” และ “การปฏิวัติรัสเซีย” ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ทั้งระบบทุนนิยมและการปฏิวัติโบลเชวิก


Luxemburg ถูกจดจำในฐานะผู้นำของ Spartakusbund และเป็นผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เยอรมัน (KPD) การต่อสู้ของเธอเพื่อสังคมนิยมที่ปราศจากการกดขี่และการแสวงหาอำนาจทำให้เธอเป็นศัตรูกับทั้งรัฐบาลเยอรมันและพรรคสังคมนิยมที่เป็นทางการ การเสียชีวิตของเธอในปี 1919 หลังจากการปราบปรามการก่อการร้ายของ Spartakusbund ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าเศร้าที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองเยอรมัน

Rosa Luxemburg ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักคิดทั่วโลก ความมุ่งมั่นของเธอในการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมและความเป็นธรรมไม่เคยลดลาง และคำพูดของเธอยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น

Rosa-Luxemburg-Platz ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในเบอร์ลิน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสันติภาพและความเท่าเทียมทางสังคม ตั้งชื่อตาม Rosa Luxemburg นักปฏิวัติสังคมนิยมที่มีชื่อเสียง สถานที่นี้เป็นตัวแทนของความหวังและความมุ่งมั่นในการสร้างโลกที่ปราศจากการกดขี่และสงคราม

Rosa Luxemburg เองก็เป็นผู้สนับสนุนการสันติภาพอย่างแข็งขัน โดยเธอได้เขียนและพูดต่อต้านสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและการทหารนิยม การต่อสู้ของเธอเพื่อสันติภาพและความเท่าเทียมได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับการเคลื่อนไหวสันติภาพทั่วโลก

Rosa-Luxemburg-Platz จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสะท้อนถึงความสำคัญของการสันติศึกษา การเรียนรู้และการสื่อสารเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการต่อสู้เพื่อสันติภาพ การเข้าใจและการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการสร้างสันติภาพผ่านการศึกษาและการเจรจา สถานที่นี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มคนที่แตกต่างกัน และเป็นสัญลักษณ์ของความหวังในการสร้างโลกที่ปราศจากความรุนแรงและการกดขี่

การเรียนรู้เกี่ยวกับ Rosa Luxemburg และการต่อสู้ของเธอ รวมถึงการเข้าใจบทบาทของ Rosa-Luxemburg-Platz ในประวัติศาสตร์ สามารถช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและการปฏิบัติตามหลักสันติศึกษา และเป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสันติภาพในอนาคต

สิ่งหนึ่งที่จะเห็นได้จากภายนอกหน้าสถานที่นี้ คือ ประติมากรรม Räuberrad เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของ Volksbühne Berlin เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากโลหะและถูกสร้างขึ้นโดย Bert Neumann ผู้ออกแบบเวทีในปี 1990 และถูกสร้างขึ้นจริงโดย Rainer Haußmann ศิลปินชาวสวิสในปี 1994 รูปปั้นโลหะนี้มีความสูงประมาณสี่เมตรและมีความเกี่ยวข้องกับ Gaunerzinken ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ลับของโจร


Räuberrad ถูกตั้งขึ้นครั้งแรกเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงละคร “Die Räuber” ของ Friedrich Schiller ซึ่งกำกับโดย Frank Castorf ผู้อำนวยการโรงละคร Volksbühne ในขณะนั้น และได้รับการตั้งขึ้นบนพื้นที่สีเขียวด้านหน้าของโรงละคร หลังจากนั้นไม่นาน รัฐบาลเบอร์ลินได้ซื้อรูปปั้นนี้ในราคาประมาณ 11,000 ยูโรและได้ตัดสินใจที่จะเก็บไว้ที่นั่นอย่างถาวร

ในปี 2017 มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับการถอด Räuberrad ออกจากสถานที่เดิมเมื่อ Frank Castorf ออกจากตำแหน่งและ Chris Dercon เข้ามาแทนที่ มีการประกาศว่า Rainer Haußmann ผู้สร้างรูปปั้นจะทำการถอดรูปปั้นออกเมื่อ Castorf ออกจากตำแหน่ง และรูปปั้นนี้ได้ถูกนำไปยัง Avignon ในฝรั่งเศส ซึ่ง Castorf ได้กำกับการแสดงในช่วงฤดูร้อนของปีนั้น

หลังจากนั้น Räuberrad ได้รับการซ่อมแซมอย่างครบถ้วนโดยการดูแลของการบริหารวัฒนธรรมของเบอร์ลิน ด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ 25,000 ยูโร และได้รับการปรับปรุงให้มีความมั่นคงมากขึ้น รวมถึงการเชื่อม “เท้า” ใหม่ และในเดือนกันยายน 2018 รูปปั้นนี้ได้ถูกนำกลับมาตั้งที่ Rosa-Luxemburg-Platz อีกครั้ง

 

ณัฐพล จารัตน์

กรุงเบอร์ลิน

28.04.2567

Sunday, April 28, 2024

Arminiusmarkthalle: ตำนานแห่ง Moabit ตลาดเยอรมัน

ย้อนเวลากลับไปสู่ปี 1891  ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ย่าน Moabit กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว  ท่ามกลางความคึกคัก  Arminiusmarkthalle หรือที่รู้จักกันในชื่อ Moabiter Markthalle  ถือกำเนิดขึ้น  กลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ทันสมัย  ตอบสนองความต้องการของผู้คนในท้องถิ่น

สถาปัตยกรรมอันงดงาม  ผลงานการออกแบบโดย Hermann Blankenstein สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญด้านตลาด  โดดเด่นด้วยซุ้มประตูที่ประณีต  ลวดลายดอกไม้บนเสาเหล็กหล่อ  ระเบียงหน้าต่างแบบมหาวิหาร   สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในยุคนั้น


มากกว่าแค่ตลาด:  Arminiusmarkthalle ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ซื้อของ  แต่ยังเป็นจุดรวมของชุมชน  ผู้คนต่างมาพบปะสังสรรค์  แลกเปลี่ยนเรื่องราว  และสัมผัสบรรยากาศอันมีชีวิตชีวา

ผ่านร้อนผ่านหนาว:  ตลาดแห่งนี้เผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย  รอดพ้นจากสงครามโลกครั้งที่สอง  ได้รับการบูรณะใหม่ในทศวรรษ 1950  กลายเป็นสัญลักษณ์อันทรงคุณค่าของ Moabit

ปัจจุบัน:  Arminiusmarkthalle ยังคงเป็นสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์  ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก  ที่นี่มีทั้งสินค้าสด  อาหารสำเร็จรูป  สินค้าเบเกอรี่  ดอกไม้  งานฝีมือ  และร้านอาหารหลากหลายประเภท  พร้อมกิจกรรมพิเศษต่างๆ ตลอดทั้งปี

Arminiusmarkthalle   มากกว่าแค่ตลาด   คือตำนานที่ยังคงมีชีวิตชีวา  รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวเอง!

#Arminiusmarkthalle #MoabiterMarkthalle #ตลาดเบอร์ลิน #ช้อปปิ้ง #อาหาร #กิจกรรม



การเดินทางและข้อมูลเพิ่มเติม ศึกษาได้จากตรงนี้