Search This Blog

Sunday, April 30, 2023

การคิดคำนวณเงินเดือนของพนักงานตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

 ข้อหารือกฎหมายแรงงานนี้ ผมนำมาจากข้อหารือที่กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน หรือภาษาอังกฤษเรียก Department of Labour Protection and Welfare) กระทรวงแรงงานครับ


บริษัทเอกชนแห่งหนึงหารือเกี่ยวกับการคิดคำนวณเงินเดือนของพนักงานตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานของบริษัทตนเอง ประเด็นข้อหารือ คือ

1. กรณีพนักงานเริ่มทำงานในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมี 28 วัน หรือเดือนมีนาคมซึ่งมี 31 วัน ในการคำนวณจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน บริษัทฯ ใช้จำนวนวันตามปฏิทินทั้งหมดของเดือนนั้น ในการคคำนวณรายได้ต่อวันและคูณจำนวนวันที่ทำงานของเดือนนั้น เช่น

(1) พนักงานเริ่มงานในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ (มีจำนวนวัน 28 วัน) อัตราเงินเดือน เดือนละ 15,000 บาท ค่าจ้างต่อวันเป็น 15,000 หาร 28 เป็นเงินจ านวน 537.71 บาท ฉะนั้น เงินเดือน

ของเดือนกุมภาพันธ์ คิดเป็นเงิน ๕๓๕.๗๑ คูณ ๒๕ วัน เป็นเงินจ านวน ๑๓,๓๙๒.๘๖ บาท

(๒) หากพนักงานเริ่มงานในวันที่ ๔ มีนาคม ในการค านวณจ่ายเงินเดือน บริษัทฯ 

ใช้ ๑๕,๐๐๐ หาร ๓๑ วัน เป็นเงินจ านวน ๔๘๓.๘๗ บาทต่อวัน เงินเดือนของเดือนมีนาคม คิดเป็นเงิน 

๔๘๓.๑๗ บาท คูณ ๒๘ วัน เป็นเงินจ านวน ๑๓,๕๔๘.๓๖ บาท อยากทราบว่าวิธีคิดเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ 

อย่างไร


Wednesday, April 26, 2023

知られざるタイ人の性格や特徴7選 : 7 นิสัยและเอกลักษณ์ของคนไทยที่คุณยังไม่รู้

2-3 วันก่อน เพื่อนชาวญี่ปุ่นส่งลิ้งก์นี้ [https://thailand-navi.com/thai-personality] เป็นบทความภาษาญี่ปุ่นชื่อบทความ 知られざるタイ人の性格や特徴7選 (7 นิสัยและเอกลักษณ์ของคนไทยที่คุณยังไม่รู้)

ผู้เขียนบทความนี้ ผมก็ไม่ทราบว่าเขียนจากมุมมองของชาวญี่ปุ่นเองหรือเป็นคนไทยเขียน เป็นบทความที่น่าสนใจสำหรับการมองแนวคิดเชิงความแตกต่างทางวัฒธรรมธรรม การบริหารทรัพยากรมนุษย์แบบญี่ปุ่น หรือการบริหารธุรกิจแบบญี่ปุ่น เพื่อความเข้าใจระหว่างกันของคนไทยกับญี่ปุ่น ขออนุญาตแปลและเรียบเรียงเสริมเป็นภาษาไทย

มุมมองทั้งหมด 7 ข้อ ตามบทความนี้ เริ่มกันนะครับ


มุมมองที่ 1 คนไทยอยู่บนหลักการ "ไม่เป็นไร" (อาจหมายความว่า "คนไทยอะไร ๆ ก็ไม่เป็นไร")
ผู้เขียนบรรยายว่า คำว่า "ไม่เป็นไร" ของคนไทยนั้น อาจมีหลายความหมาย เช่นหมายถึง ไม่เป็นไร ไม่แคร์ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้ ไม่ต้องคิดมาก ให้อภัยเถอะ หรือแม่แต่เป็นการแสเงความขอบคุณหรือแสดงความยินดี ก็ได้ในบางกรณี จะได้ยินคนไทยพูดบอกมาก ๆ ในแต่ละวันในหลายบริบทของการสนทนา แต่สิ่งสำคัญหคือความหมายลึก ๆ ของ "ไม่เป็นไร" แสดงถึง นิสัยใจคอและลักษณะนิสัยของคนไทยที่มีรากฐานจากการรักสงบ รักสันติ และให้อภัย

สำหรับคนญี่ปุ่น "ไม่เป็นไร" ดูจะเป็นเรื่องที่ "ไม่ไม่เป็นไร" ภาษาญี่ปุ่นน่าจะใกล้เคียงกับคำว่า 大丈夫 (ไดโจบุ : Daijobu) การพูดไม่เป็นไรเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือแสดงออกถึงการไม่รู้สำนึกของการกระทำที่ผิดพลาด ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะให้อภัย คนญี่ปุ่นอาจไม่เข้าใจได้ว่า คนไทยจะให้อภัยหรือแล้วต่อกันง่าย ๆ เพียงคำว่า "ไม่เป็นไร" เท่านั้นหรอ

ในมุมมองของผมเอง รากฐานสำคัญของ "ไม่เป็นไร" ได้รับอิทธิพลจากหลักธรรมของศาสนาพุทธ หลักการให้อภัย การไม่คิดพยาบาท เลิกแล้วต่อกันไม่เป็นกรรมเวรต่อกัน หรืออีกนัยคือ การอโหสกรรม โดยการใช้คำลำลองจาก "อโหสิกรรม" แทนด้วย "ไม่เป็นไร"  เมื่อให้อภัยก็จะได้บุญกุศล

ไม่ทราบว่าพี่ ๆ คิดเห็นอย่างไรบ้างครับ

มุมมองที่ 2 คนไทยชอบพูดเรื่องส่วนตัว 
ทำความเข้าใจคำว่า "เรื่องส่วนตัว" ในมุมของคนญี่ปุ่นจะหมายถึง เช่น พอตัวเองรู้สึกอ้วน พอเจอเพื่อนที่ทำงานก็จะบอกว่า ตัวเองอ้วนขึ้น หรือแต่งหน้าไม่สวยก็จะบอกว่าวันนี้แต่งหน้าไม่สวย วันนี้ไม่อาบน้ำ วันนี้ไม่ได้ทานข้าวเช้า เป็นต้น คนไทยเองเจอหน้ากันก็จะพูดแบบไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องเป็นความลับหรือเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครรู้ เทียบกับคนญี่ปุ่น ถ้าเราไปบอกว่า ไม่ได้เจอกันนานเลยเธอดูอ้วนจัง เธอหนักเท่าไร คนญี่ปุ่นที่ถูกถามคงแสดงความไม่พอใจ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว หรืออาจมองได้ว่าเป็นการบูลลี่ด้วยวาจาก็ได้

ในข้อด้วยย่อมมีข้อดี แม้ว่าเรื่องส่วนตัวในมุมมองของคนญี่ปุ่นดูเป็นเรื่องต้องระมัดระมัง แต่การพูดเรื่องส่วนตัวเชิงบวก เช่น เธอสวยจังเลย เสื้อเธอสวยจังซื้อที่ไหน นาฬิกาไฮโซจังเลย สำหรับหลาย ๆ คนดีใจที่ได้รับการพูดเชิงชมเชย

ฉะนั้น คนญี่ปุ่นจึงไม่สามารถตัดสินได้ว่า การพูดเรื่องส่วนตัวของคนไทยเป็นเรื่องที่ผิดวิสัย แต่การที่คนญี่ปุ่นมาอยู่ไทยแล้วไม่พูดเรื่องส่วนตัวนี่แหละเป็นเรื่องแปลก เป็นเรื่องของความแตกต่างทางวัฒนธรรมของไทยกับญี่ปุ่น ที่จะต้องใช้หลักการบริหารข้ามวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นมาช่วยอธิบาย

มุมมองที่ 3 คนไทยมีปฏิกิริยาเกินจริงในโรงภาพยนตร์

ในมุมมองนี้ เมื่อนานมาแล้ว ผมได้ดูหนังเรื่อง สตรีเหล็ก ที่เข้าฉายที่ญี่ปุ่น ทั้ง ๆ ที่มีฉากตลกหรือฉากที่ดูตกใจ คนญี่ปุ่นในโรงหนังนั่งนิ่ง จะหัวเราะเบา ๆ มีผมที่หัวเราะจนเพื่อนญี่ปุ่นที่ไปด้วยกันสะกิดให้หัวเราะเบา ๆ ในญี่ปุ่น เป็นเรื่องปกติที่จะเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่โรงภาพยนตร์ของไทยแตกต่างออกไป เมื่อมีฉากตลกก็จะมีเสียงหัวเราะหรือเสียงตบมือดังขึ้นแบบไม่ต้องแคร์สื่อ ก็เพราะมันเป็นหนังตลกถูกไหม ถ้าจะให้กลั้นหัวเราะจะไปเสียเงินดูทำไม เราไปดูก็เพราะอยากหัวเราะ ดูเพื่อความบันเทิง ไม่ดูเพื่อเก็บกดความรู้สึก พี่ ๆ ไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าคนญี่ปุ่นดูหนังเศร้า หรือหนังผีน่ากลัว ๆ คงจะนิ่ง ๆ แต่สำหรับคนไทย ดูหนังสือเศร้าเราก็ร้องไห้เปิดเผย จะหรี๊ดตอนผีกระโดดออกมา เราก็กรี๊ดดังลั่นไม่มีใครจะสนใจ ลักษณะของคนญี่ปุ่นจะเก็บความรู้สึก รักษาอารมณ์ไม่แสดงออกชัดเจน หลายครั้งที่คนต่างชาติไม่อาจเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของคนญี่ปุ่นได้

มุมมองที่ 4 ผุ้ชายไทยใจดีแต่ชอบนอกใจ
สาว ๆ ชาวญี่ปุ่นมองว่า ผู้ชายไทยนิสัยดี มีความเป็นสุภาพบุรุษทั้งคำพูดและการกระทำที่เปิดเผยชัดเจน แต่ขึ้นชื่อเรื่องการนอกใจเป็นที่หนึ่ง เช่น ผู้ชายไทยช่วยถูกของให้ผู้หญิง ซึ่งผู้ชายญี่ปุ่นไม่ทำ ผู้ชายไทยมักเป็นผู้จ่ายมากกว่าจะแชร์ ซึ่งผู้ชายญี่ปุ่นไม่ทำ ผู้ชายไทยพูดจาอ่อนหวาน ชมฝ่ายหญิงเสมอ ซึ่งผู้ชายญี่ปุ่นไม่ทำ เรื่องสำคัญที่สาวญี่ปุ่นชอบชายไทย คือ ผู้ชายไทยช่วยทำงานบ้าน ช่วยเลี้ยงลูก ซึ่งผู้ชายญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ช่วย


มุมมองที่ 5 สาวไทยมีนิสัยห่วงไยแต่ขี้หึง
ความห่วงไยกับขี้หึงเป็นเรื่องที่เข้าใจและแยกไม่ได้ ตอนไหนห่วงไย ตอนไหนหึง แม้กระทั้งตอนโกรธยังไม่เข้าใจว่าโกรธแบบนี้คือโกรธแบบห่วงไย หรือแบบหึงหวง 
อย่างไรก็ตามไม่ว่าสาวไทยหรือสาวญี่ปุ่นก็เป็นเรื่องที่เข้าได้ยาก ถามว่าทำไมทำอย่างนั้น คนไทยจะตอบว่า "จะได้ทำบุญ" "คนนั้นน่าสงสาร" หรือ "จะได้ช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ บรรเทาความทุกข์อยากให้คนอื่น" ซึ่งที่ญี่ปุ่นการจะบริจาคให้ใคร จะคิดแล้วคิดอีก จนไม่ยอมควักกันง่าย ๆ

มุมมองที่ 6 คนไทยชอบช่วยเหลือผู้อื่นและชอบบริจาค
การชอบช่วยเหลือผู้อื่นนอกจากจะแสดงถึงนิสัยส่วนบุคคลแล้ว ยังยึดโยงกับศาสนาพุทธที่สอนให้ช่วยเหลือผู้อื่น สอนให้สละทรัพย์หรือเสียสละเพื่อคนที่ลำบากกว่าตนเอง คนไทยชอบไปวัด จะเห็นภาพการบริจาคเงินมากบ้างน้อยบางแล้วแต่บุคคล แต่ที่น่าแปลกใจคือ แม้ตนเองจะมีเงินไม่มากหรือจำเป็นที่ยังต้องใช้เงิน คนไทยก็กล้าจะบริจาคเงินจำนวนหนึ่งได้โดยไม่คิดว่าตนเองจะลำบาก

มุมมองที่ 7 คนไทยขอบโซเซียล
สิ่งที่น่าแปลกใจมาก คือ คนไทยโพสทุกอย่าง โพสรู้ตัวเอง กินอะไร ทำอะไร ไปที่ไหน ไปกับใคร ส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่มีรูปตนเองมากกว่ารู้ที่จะอยากให้เห็นสถานที่ เช่น ไปเที่ยวทะเลที่มีชายหาดสวยงาม แต่จะได้เห็นรูปคนโพสบังวิวทะเล จนไม่รู้ว่าทะเลสวยหาดสวยเป็นอย่างไร รูปที่มีคนอื่น ๆ ติดไปด้วยก็จะไม่มีการเบลอภาพ และไม่ขออนุญาตคนอื่นที่มีภาพติดไปด้วย รูปภาพเด็กหรือแม้แต่รู้อุบัติเหตุคนไทยก็จะลงโดยไม่ปิดบังทั้ง ๆ ที่มันเป็นภาพส่วนบุคคลหรือไม่ใช้ภาพที่ตนเองมีความเกี่ยวข้อง

ทั้งหมดเป็นมุมมองเล็ก ๆ ที่มาจากบทความจากเว็บ [https://thailand-navi.com/thai-personality] ซึ่งผมขออนุญาตย้ำว่าไม่ได้แปลตรง ๆ ทุกตัวอักษรแต่ได้เพิ่มติดความเห็นส่วนตัวเรียบเรียงเสริมด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เห็นมุมมองของบทความนี้ที่มีต่อสังคมไทย ซึ่งเป็นเพียงมุมมองเท่านั้น ที่แต่ละท่านมีประสงการณ์ต่างกัน ไม่ได้มุ่งสร้างความขัดแย้งทางวัฒนธรรมแต่ประการใด หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้สนใจ หากผิดพลาดประการใด ยินดีให้ผู้รู้ชี้แนะให้เหมาะสมครับ

ขอบคุณครับ
ありがとうございます。

twitter @NathJarat


Thursday, April 20, 2023

"วิชาชีพวิจัย" เสริมสมรรถนะนักวิจัยไทยสู่สากล

สุภาพบุรุษสภาสตรีและพี่ ๆ ทุกท่านเคยได้ยิน #ใบประกอบวิชาชีพวิจัย กันไหมครับครับ ผมเคยได้ยินเรื่องใบประกอบวิชาชีพวิจัยมานานพบสมควร ยิ่งตอนเรียนที่ญี่ปุ่น ผมเห็นเพื่อนญี่ปุ่นหลายคนที่ทำงานเป็นนักวิจัยพยายามไปสอบรับคุณวุฒินักวิจัย ส่วนของประเทศเรานั้นไม่น่าจะมีคุณวุฒิแบบนี้ เท่าที่เข้าใจประเทศเราคงมีเพียงการรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานเท่านั้น (ตามที่ผมเข้าใจเมื่อหลาย ๆ ปีก่อนนะครับ)

เมื่อไม่นานมานี้ ผมจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ  อยากจะสมัครเป็นผู้ช่วยนักวิจัย ด้วยมั่นใจมากว่าเรามีปริญญาเอกและภาษาก็พอได้ พอสมัครไปทางนั้นถามถึงใบประกอบวิชาชีพวิจัย ไม่ได้สนใจถามถึงปริญญา วินาทีนั้นผมไม่เข้าใจว่าคืออะไร พอนึกพิจารณาสักครู่ เข้าใจได้ว่านั่นคือใบคุณวุฒิวชาชีพ เพราะผมเคยทำงานที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพมาช่วงหนึ่งสั้น ๆ จึงพอเข้าใจได้เร็ว 

ผมเริ่มหาข้อมูลทันทีเพื่อจะขอรับใบคุณวุฒิวิชาชีพและสอบถามไปยังสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพโดยตรง จึงได้รับคำแนะนำให้ติดต่อไปที่ #สถาบันวิจัยและพัฒนาสมรรถนะอาชีพประเทศไทย พี่ ๆ สามารถคลิกลิ้งก์ของสถาบันได้ที่ 

ขอเชิญผู้สนใจสมัครสอบรับใบประกอบวิชาชีพวิจัย รุ่นที่ 2 – สถาบันวิจัยและพัฒนาสมรรถนะอาชีพประเทศไทย (trdoci.com)


ผมรู้สึก amazing ประเทศไทยเราดำเนินการด้านมาตรฐานอาชีพนักวิจัย เป็นที่ยอมรับระดับสากล ผมเข้าใจนะว่าพี่ ๆ หลายคนก็คงแปลกใจดังที่ผมเคยรู้สึก “มีปริญญาอยู่แล้ว ทำวิจัยเป็นอยู่แล้ว จะมีไปทำไม" 

เรื่องของการใบประกอบวิชาชีพวิจัยไม่ได้มีกฎหมายบังคับ แต่กฎหมายรับรองวิชาชีพ สามารถนำไปอ้างอิง และแสดงถึงมาตรฐานทางอาชีพนักวิจัยควรมี สำหรับผมมีความจำเป็นเพราะเห็นประโยชน์ในการทำงานต่างประเทศ ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านเลขาธิการสถาบันวิจัยและพัฒนาสมรรถนะอาชีพประเทศไทย ท่านปรารถถึงความสำเร็จและเป็นความภาคภูมิใจสำหรับวิชาชีพวิจัยของประเทศ สามารถเทียบกับต่างประเทศเจริญทั้งหลายในโลกนี้ได้ 

ในกระทู้นี้ผมคงไม่ได้บรรยายอะไรมากมายนัก ผมก็อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารเพื่อขอสอบรับใบวิชาชีพวิจัยเช่นกัน ถ้าได้ผ่านตามคุณสมบัติของวิชาชีพวิจัย จะรีวิวทุกขั้นตอนให้พี่ ๆ ได้ทราบด้วย 

ตอนนี้กำลังเปิดสมัครรับใบประกอบวิชาชีพวิจัย รุ่นที่ 2 พี่ ๆ ที่สนใจลองสอบถามตามเบอร์โทรและที่อยู่ตามประกาศ  ช่วงนี้อากาศร้อนมาก แต่พอเห็นค่าไฟไม่รู้จะต้องทดอยู่แบบร้อน ๆ ดีกว่าไหมนะครับ 

กราบขอบพระคุณครับ

ณัฐพล จารัตน์

twitter @NathJarat

***อนุทินนี้เขียนขึ้นตามความคิดเห็นส่วนบุคคล เพื่อเป็นการเผยแพร่มุมมองและแลกเปลี่ยนความรู้ทั่วไป ไม่มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองหรือพาดพึงให้เกิดความเสียหาย หากท่านพบเห็นสิ่งใด้ไม่สะดวกใจ โปรดติดต่อผมได้ทันทีครับผม***

 Also link: https://www.gotoknow.org/posts/712401

Saturday, April 15, 2023

กำลังอัพเดต

เรียน สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่านครับ 

ผมกำลังอัพเดทข้อมูลใหม่ เพื่อที่จะให้เข้ากับสถานการณ์และเป็นการสะสมความรู้เผยแพร่ให้กับคนที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์เก่า ลูกศิษย์ปัจจุบัน เพื่อนๆ หรือผู้ที่สนใจอ่านบทความของผมทั่วไป 

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกท่านที่เข้ามาในที่นี้ อีกประการหนึ่ง คือ ประสบการณ์ของเราทุกคนนั้นย่อมมีคุณค่า ประสบการณ์แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ประสบการณ์ของทุกคนนำไปสู่ประสบการณ์สำเร็จของแต่ละบุคคลก็ต่างกันบางประสบการณ์อาจให้บทเรียนเพื่อการเรียนรู้ในการปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดในชีวิตของตนเอง รวมถึงให้ผู้อื่นได้เรียนรู้

ผมจึงหวังว่าสิ่งที่จะบันทึกไว้ในที่นี้จะเป็นประโยชน์บ้างหรืออาจจะไม่มีสาระสำคัญใด ๆ เลยต่อผู้อื่นแต่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่อุทิศให้เพื่อการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลจึงหวังว่าสิ่งที่จะทำขึ้นอาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย บางครั้งอาจจะไม่มีการอ้างอิงเชิงวิชาการ นั่นก็เป็นเพราะว่าบางครั้งก็เขียนขึ้นตามความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้รับ 

หากมีสิ่งใดผิดพลาดหรือเป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่เข้าท่าทีต่อทุกท่าน ก็กราบขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ล่วงหน้า

ณัฐพล จารัตน์

Thursday, April 6, 2023

รายงานข้อมูลการสนับสนุนทางการทหารแก่ยูเครน ณ วันที่ 6 เมษายน 2566

สำนักข่าวและสารสนเทศของรัฐบาลกลางเยอรมนี (Presse- und Informationsamt der Bundesregierung) รายงานข้อมูลการสนับสนุนทางการทหารแก่ยูเครน เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ว่า เยอรมนีให้การสนับสนุนยูเครนโดยการจัดหายุทโธปกรณ์และอาวุธ ซึ่งมาจากคลังของกองทัพเยอรมนี (Bundeswehr) และได้รับจากภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนของรัฐบาลกลางสำหรับการสร้างศักยภาพด้านการรักษาความั่นคงของประเทศ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2.2 พันล้านยูโร ในปี 2023 (พ.ศ.2566) เพิ่มจากปี 2022 (พ.ศ.2565) ที่กองทุนได้รับเงิน 2 พันล้านยูโร มีวัตถุประสงค์หลักสำหรับการสนับสนุนทางการทหารแก่ยูเครนเท่านั้น ปัจจุบันกองทัพเยอรมนีสนับสนุนและจัดหายุทโธปกรณ์และอาวุธไปแล้ว รายการดังต่อไปนี้ 


1) รถหุ้มเกราะ DACHS จำนวน 4 คัน (DACHS armoured engineer vehicles)

2) รถบรรทุก Zetros จำนวน 60 คัน (Zetros trucks)

3) ระบบเสาสัญญาณเคลื่อนที่ จำนวน 42 เสา (mobile antenna mast systems)

4) โดรนสอดแนม จำนวน 34 ลำ (reconnaissance drones)

5) กระสุน 40 มม. จำนวน 83,520 นัด (40mm ammunition)

6) รถถังต่อสู้พร้อมกระสุน LEOPARD 2A6 จำนวน 18 คัน (LEOPARD 2 A 6main battle tanks with ammunition)

7) รถรบทหารราบ MARDER พร้อมกระสุน จำนวน 40 คัน (MARDER infantry fighting vehicles with ammunition)

8) ยานเกราะกู้ชีพ Bergepanzer 3 จำนวน 2 คัน (Bergepanzer 3 armoured recovery vehicles)

9) ทุ่นระเบิดดังรถถัง WISENT 1 จำนวน 2 คัน (WISENT 1 mine clearing tanks)

10) ชุดปฐมพยาบาล จำนวน 160,000 ชุด (first aid kits)

11) สายรัดห้ามเลือดทูนิเก้ 103,000 เส้น (tourniquets)

12) ปืนกล MG3 สำหรับ LEOPARD 2, MARDER และ DACHS จำนวน 100 ชุด (MG3 for LEOPARD 2, MARDER and DACHS)

13) อะไหล่สำหรับ LEOPARD 2 และ MARDER (Spare parts for LEOPARD 2 and MARDER)

14) ระบบตรวจจับโดรน 90 เครื่อง (drone detection systems)

15) ปืนพก SFP9 จำนวน 500 กระบอก (SFP9 pistols)

16) เต็นท์สำหรับโรงเก็บเครื่องบิน จำนวน 2 หลัง (hangar tents)

17) กระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. จำนวน 23,500 นัด (155mm projectiles)

18) กระสุนนำวิถีแม่นยำ 155 มม. (155mm precision guided ammunition) ***ไม่ระบุจำนวน***

19) กระสุนสำหรับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง MARS II (MARS II ammunition for multiple rocket launchers) ***ไม่ระบุจำนวน***

20) รถยก จำนวน 8 คัน (lift trucks)

21) เครื่องปั่นฟ้า จำนวน 295 เครื่อง (generators)

22) ปืนต่อสู้อากาศยานอัตตาจร GEPARD จำนวน 34 กระบอก รวมกระสุนประมาณ 6,000 นัด (self-propelled anti-aircraft guns GEPARD including rounds of ammunition)

23) รถป้องกันแนวชายแดน จำนวน 122 คัน (border protection vehicles)

24) รถถังทอดสะพาน BEAVER จำนวน 6 คัน (BEAVER bridge-laying tanks)

25) ตาข่ายลายพรางกันหนาว จำนวน 10 หลัง (winter camouflage nets)

26) รถบรรทุกขนาด 15 ตัน จำนวน 26 คัน  (15 ton load-handling trucks)

27) เครื่องขยายช่วงความถี่สำหรับอุปกรณ์ต่อต้านโดรน จำนวน 32 เครื่อง (frequency range extensions for anti-drone devices)

28) คอนเทนเนอร์แบบม้วน จำนวน 10 ตู้ (roll off containers)

29) มิสไซล์ Iris-T SLM (Iris-T SLM missiles) ***ไม่ระบุจำนวน***

30) ระบบทำลายทุ่นระเบิดเคลื่อนที่ สามารถควบคุมระยะไกลและป้องกัน จำนวน 3 เครื่อง (mobile, remote controlled and protected mine clearing systems)

31) อุปกรณ์ชี้เป้าด้วยเลเซอร์ จำนวน 40 ตัว (laser target designators)

32) รถบรรทุกหัวลาก 12 ขวบน และรถกึ่งพ่วง 4 คัน (truck tractor trains and semi-trailers)

33) รถกระบะ 145 คัน (Pick-ups)

34) ระบบทำลายทุ่นระเบิดเคลื่อนที่และป้องกัน จำนวน 8 เครื่อง (mobile and protected mine clearing systems)

35) ระบบทำความร้อนเคลื่อนที่ จำนวน 168 เครื่อง (mobile heating systems)

36) เครื่องยิงจรวดขนาด 70 มม. บนรถกระบะติดจรวด จำนวน 20 กระบอก (rocket launchers 70mm on pick-up trucks with rockets)

37) ยานเกราะกู้ชีพ Bergepanzer 2 จำนวน 15 คัน (Bergepanzer 2 armoured recovery vehicles)

38) รถขนย้ายยุทโธปกรณ์ M1070 Oshkosh จำนวน 12 คัน (M1070 Oshkosh tank transporter tractor)

39) รถถังทหารราบติดตามและควบคุมระยะไกลสำหรับรถถังสนับสนุนการรบ จำนวน 7 คัน (tracked and remote controlled infantry vehicles for support tasks)

40) รถบรรทุกขับเคลื่อนเต็มรูปแบบ 8x8 จำนวน 35 คัน (load-handling trucks 8x8)

41) รถพยาบาล จำนวน 36 คัน (ambulances)

42) ผ้าห่ม จำนวน 36,400 ผืน (wool blankets)

43) รถบรรทุกเทรลเลอร์งานหนัก จำนวน 12 คัน (heavy duty trailer trucks)

44) เซ็นเซอร์ต่อต้านโดรนและเครื่องตัดสัญญาณ จำนวน 55 เครื่อง (anti-drone sensors and jammers)

45) รถหุ้มเกราะ Dingo จำนวน 50 คัน (DINGO MRAP vehicles) 

46) เรือผิวน้ำไร้คนขับ จำนวน 10 ลำ (unmanned surface vessels)

47) ถุงนอน 14,000 ใบ (sleeping bags)

48) อะไหล่เฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-24 (Mi-24 spare parts) ***ไม่ระบุจำนวน*** 

49) อะไหล่ปืนกล M2 (spare parts for heavy machine gun M2) ***ไม่ระบุจำนวน***

50) ระบบสะพานขนาดกลางและหนัก 17 ชุด (heavy and medium bridge systems)

51) เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง MARS II พร้อมกระสุน (MARS II multiple rocket launchers with ammunition) จำนวน 5 เครื่อง

52) ปืนใหญ่อัตตาจร Panzerhaubitze 2000 จำนวน 14 กระบอก (Panzerhaubitze 2000 self-propelled howitzers)

53) ระบบป้องกันภัยทางอากาศ Iris-T SLM (Iris-T SLM air defence system) ***ไม่ระบุจำนวน***

54) เต็นท์ จำนวน 200 หลัง (tents)

55) เสื้อกันหนาว จำนวน 116,000 ตัว (winter jackets)

56) กางเกงกันหนาว จำนวน 80,000 (winter trousers)

57) หมวกกันหนาว จำนวน 240,000 ใบ (winter hats)

58) อาหารสำเร็จรูปทหารพร้อมรับประทาน จำนวน 405,000 ชุด (pre-packaged military Meals Ready)

59) ตู้เย็นสำหรับเก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวน 67 ตู้ (fridges for medical material)

60) ระบบเรดาร์ตรวจการณ์แบตเตอรี่ COBRA (counter battery radar system COBRA)  ***ไม่ระบุจำนวน***

61) กระสุนซ้อมรบสำหรับปืนต่อสู้อากาศยานอัตตาจร จำนวน 4,000 นัด (practice ammunitions for self-propelled anti-aircraft guns)

62) รถสายพานลำเลียงพล M113 จำนวน 54 (M113 armoured personnel carriers)

63) กระสุนสำหรับปืนต่อสู้อากาศยานอัตตาจร จำนวน 53,000 นัด (ammunitions for self-propelled anti-aircraft guns)

64) อาวุธต่อสู้รถถัง Panzerfaust 3 จำนวน 3,000 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์ยิง จำนวน 900 ชิ้น (Panzerfaust 3 anti-tank weapons with firing devices)

65) ทุ่นระเบิดต่อต้านรถถัง จำนวน 14,900 ลูก (anti-tank mine)

66) ระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบพกพา STINGER จำนวน 500 เครื่อง (STINGER Man Portable Air Defense Systems)

67) ระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบพกพา STRELA จำนวน 2,700 เครื่อง (STRELA Man Portable Air Defense Systems)

68) กระสุนสำหรับอาวุธปืน จำนวน 22 ล้านนัด (ammunition for fire arms)

69) ขีปนาวุธบังเกอร์บัสเตอร์ จำนวน 50 หัว (bunker buster missiles)

70) ปืนกล MG3 100 กระบอก พร้อมกระบอกสำรอง 500 กระบอกและก้นบล็อก (MG3 with spare barrels and breechblocks)

71) ระเบิดมือ จำนวน 100,000 ลูก (hand grenades)

72) ประจุระเบิด จำนวน 5,300 ลูก (explosive charges)

73) สายจุดชนวนระเบิด 100,000 ม. และตัวจุดระเบิด 100,000 ลูก (detonating cord and detonators)

74) เครื่องจุดระเบิด จำนวน 350,000 เครื่อง (detonators)

75) ปืนต่อสู้โดรน จำนวน 10 กระบอก (anti-drone guns)

76) อุปกรณ์หัวฉีดอัตโนมัติ จำนวน 100 ตัว (auto-injector devices)

77) หมวกกันน็อคทหาร จำนวน 28,000 ใบ (combat helmets)

78) พาเลทเสื้อผ้าทหาร จำนวน 15 แท่น (palettes military clothing)

79) ยานพาหนะ จำนวน 280 คัน (รถบรรทุก รถมินิบัส รถอเนกประสงค์) (vehicles)

80) พาเลทสำหรับทำลายวัตถุระเบิด จำนวน 6 แท่น (material for explosive ordnance disposal)

81) กล้องส่องทางไกล จำนวน 125 ตัว (binoculars)

82) เตียงผู้ป่วย จำนวน 1,200 เตียง (hospital beds)

83) พาเลทวัสดุทางการแพทย์ 18 แท่น และไฟผ่าตัด 60 ดวง (medical material and surgical lights)

84) ชุดป้องกันและหน้ากากอนามัย (protective clothing and surgical masks)

85) แว่นนิรภัย 600 อัน (safety glasses)

86) ระบบความถี่คลื่นวิทยุ จำนวน 1 เครื่อง (radio frequency system)

87) โทรศัพท์ภาคสนาม จำนวน 3,000 เครื่อง พร้อมสายม้วนเก็บและสายสะพาย จำนวน 5,000 สาย (field telephones with cable reels and carrying straps)

88) โรงพยาบาลสนาม จำนวน 1 แห่ง (field hospital)

89) แว่นมองกลางคืน จำนวน 353 อัน (night vision goggles)

90) อุปกรณ์ต่อต้านโดรนอิเล็กทรอนิกส์  จไนวน 12 ชิ้น (electronic anti-drone devices)

91) แว่นสนาม 165 อัน (field glasses)

92) วัสดุทางการแพทย์ (นอกจากเป้หลังและผ้าพันแผล)  (medical material) ***ไม่ระบุจำนวน***

93) เครื่องวัดระยะด้วยเลเซอร์ จำนวน 38 เครื่อง (laser range finders)

94) นำมันดีเซลและเบนซิน (อยู่ระหว่างส่งมอบ) (Diesel and gasoline) ***ไม่ระบุจำนวน***

95) น้ำยาบำบัดไอเสีย จำนวน 10 ตัน (AdBlue)

96) ผ้าก๊อซทางการแพทย์ จำนวน 500 ชิ้น (medical gauzes)

97) อะไหล่เครื่องบิน MiG-29 (MiG-29 spare parts) ***ไม่ระบุจำนวน***

98) รถยานเกราะป้องกัน จำนวน 30 คัน (protected vehicles)

99) อาวุธต่อต้านรถถังแบบพกพา RGW 90 Matador  จำนวน 7,944 ชิ้น (RGW 90 Matador man-portable anti-tank weapons)

100) รถชำระล้างแบบเคลื่อนที่ HEP 70 จำนวน 6 คัน รวมทั้งวัสดุชำระล้าง 

101) รถฮัมวี จำนวน 10 คัน (HMMWV) 

102) เครื่องตัดสัญญาณวิทยุ จำนวน 7 เครื่อง (radio jammers)

103) เรดาร์ตรวจการณ์ภาคพื้นดินเคลื่อนที่และกล้องจับความร้อน จำนวน 8 ตัว (mobile ground surveillance radars and thermal imaging cameras)

104) อุปกรณ์คลื่นความถี่สูง จำนวน 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ (high frequency unit with equipment)

ส่วนยุทโธปกรณ์สนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนในการวางแผนและในการปฏิบัติการ รายการดังต่อไปนี้กำลังจัดส่งให้ยูเครน รายละเอียดของแต่ละรายการยังไม่แน่นอนจนกว่าจะส่งมอบ ดังนี้

1) กระสุน 155 มม. จำนวน 6,350 นัด (155mm projectiles)

2) ขีปนาวุธ Iris-T SLM (missiles)

3) รถถังทอดสะพาน BEAVER จำนวน 20 คัน (bridge-laying tanks)

4) กระสุน GEPARD 300,000 นัด (GEPARD ammunition)

5) เรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศ 2 เครื่อง (air surveillance radars)

6) รถบรรทุกหัวลาก 78 ขบวน และรถกึ่งพ่วง 86 ขบวน (truck tractor trains and semi-trailers)

7) ระบบป้องกันทางอากาศ PATRIOT พร้อมขีปนาวุธ (PATRIOT air defence system)

8) ระบบเสาสัญญาณเคลื่อนที่ จำนวน 8 เสา (mobile antenna mast systems)

9) ชุดปฐมพยาบาล จำนวน 40,000 ชุด (first aid kits)

10) โดรนสอดแนม จำนวน 108 ลำ (reconnaissance drones)

11) รถขนย้ายยุทโธปกรณ์ M1070 Oshkosh จำนวน 1 คัน (M1070 Oshkosh tractor)

12) ระบบทำความร้อนเคลื่อนที่ จำนวรน 17 เครื่อง (mobile heating systems)

13) ปืนครก RCH 155 จำนวน 18 กระบอก (RCH 155 self-propelled howitzers)

14) รถบรรทุก 8x6 จำนวน 7 คัน  พร้อมตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 18 ตู้ (rucks 8x6 and containers)

15) ปืนต่อสู้อากาศยานอัตตาจร GEPARD จำนวน 3 กระบอก (self-propelled anti-aircraft guns)

16) รถถังทหารราบติดตามและควบคุมระยะไกลสำหรับรถถังสนับสนุนการรบ จำนวน 7 คัน (infantry vehicles for support tasks)

17) ระบบทำลายทุ่นระเบิดแบบเคลื่อนย้าย จำนวน 6 เครื่อง (mobile and protected mine clearing systems)

18) ทุ่นระเบิดดังรถถัง WISENT 1 จำนวน 40 ทุ่น (mine clearing tanks)

19) ระบบลาดตระเวนเคลื่อนที่บนยานพาหนะ จำนวน 5 เครื่อง (mobile reconnaissance systems on vehicles)

20) รถป้องกันแนวชายแดน จำนวน 378 คัน (border protection vehicles)

21) กระสุน 40 มม. จำนวน 132,480 นัด (40 mm ammunition)

22) รถหุ้มเกราะ DACHS จำนวน 1 คัน (DACHS)

23) ระบบสะพานขนาดกลางและหนัก จำนวน 3 เครื่อง (heavy and medium bridge systems)

24) ปืนครกอัตตาจร Zuzana 2 จำนวน 16 ลำ (self-propelled howitzer)

25) รถบรรทุกเทรลเลอร์งานหนัก จำนวน 78 คัน (heavy duty trailer trucks)

26) ระบบป้องกันภัยทางอากาศ IRIS-T SLM จำนวน 3 เครื่อง (air defence system)

27) ระบบสแกนการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องตัดสัญญาณ จำนวน 12 เครื่อง (communications electronic scanner/jammer systems)

28) โรงพยาบาลสนาม (field hospital)

29) เครื่องขยายช่วงความถี่สำหรับอุปกรณ์ต่อสู้โดรน จำนวน 8 ตัว (frequency range extensions for anti-drone devices)

30) รถแทรกเตอร์ 2 คัน และรถพ่วง 4 คัน (tractors and trailers)

31) รถยานเกราะป้องกัน จำนวน 10 คัน (protected vehicles)

32) ระบบขจัดสิ่งปนเปื้อนในรถยนต์ (vehicle decontamination system)

33) อาวุธต่อสู้รถถังแบบพกพา จำนวน 5,032 อัน (man-portable anti-tank weapons)

34) รถบรรทุก จำนวน 140 คัน (trucks)

มูลค่ารวมของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่รัฐบาลออกใบอนุญาตส่งออกช่วงวันที่ 1 มกราคม 2022 ถึง 3 เมษายน 2023  มูลล่าเท่ากับ 2,742,851,393 ยูโร  ซึ่งการส่งออกอยู่ภายใต้ข้อกำหนดและมีใบอนุญาตภายใต้กฎหมายการค้าต่างประเทศของเยอรมัน


อ้างอิางข้อมูลจาก

https://www.bundesregierung.de/breg-en/news/military-support-ukraine-2054992