มาอยู่เบอร์ลินจะเกือยปีแล้ว ยังไม่เคยเขียนเกี่ยวกับ "ประตูบรันเดินบูร์ก" (Brandenburg Gate) สักที เมื่อวานมาเดินแถวนี้พอดี ถือโอกาสเล่าถึงสถานที่แห่งนี้คร่าว ๆ ครับผม
"ประตูบรันเดินบูร์ก" (Brandenburg Gate) ถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การเมือง อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ การรวมชาติ สันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นหนึ่งเดียวของเยอรมนี
ประตูบรันเดินบวร์กเริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 1788 และเสร็จสิ้นปี 1791 (ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1) สร้างโดยกษัตริย์ฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 แห่งปรัสเซีย เป็นการจำลองประตูชัยในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ประตูแห่งนี้เคยเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะของปรัสเซีย และจักรวรรดิเยอรมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ต่อมาประตูบรันเดินบวร์คก็ได้รับการบูรณะจนเสร็จสิ้นดังในปัจจุบัน (ลิ้งก์ภาพประกอบ https://www.deutsche-digitale-bibliothek.de/item/V5SET6LSCSZUZRIDH5I5DAUJWTKB2SGD)
ประตูบรันเดินบวร์กเป็นสถานที่จัดงานสำคัญ ๆ ของเยอรมนี เช่น งานฉลองวันชาติเยอรมัน และงานเฉลิมฉลองปีใหม่ ยังปรากฏในภาพยนตร์ ละคร และงานศิลปะมากมาย
ประตูบรันเดินบวร์กตั้งอยู่บนถนนอุนเทอร์ เดน ลินเดน (Unter den Linden) ซึ่งเคยเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างเยอรมนีตะวันตกและตะวันออกด้วยกำแพงเบอร์ลิน ต่อมาการพังทลายของกำแพงเบอร์ลินในปี 1989 (พ.ศ.2532) ทำให้ประตูบรันเดินบวร์กกลายเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพและเสรีภาพ ยังเป็นสถานที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากการแบ่งแยกเยอรมนี
เมื่อปีที่แล้ว กลุ่ม The Last Generation นักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศได้พ่นสีส้มและเหลืองบนเสาประตูบรันเดนบูร์ก แสดงการต่อต้านรัฐบาลเชิงสัญลักษณ์ เพื่อผลักดันข้อเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลภายในปี 2023 (พ.ศ. 2573) ผลของการกระทำดังกล่าวกลับได้รับเสียงประณามและมีผู้ไม่เห็นด้วยจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มคนที่ต่อต้านรัฐบาลก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ครับ (ลิ้งก์ข่าวประกอบ https://www.posttoday.com/international-news/699607)
ปัจจุบัน ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว บางท่านถึงกับพูดว่าถ้ามาไม่ถึง "ประตูบรันเดินบูร์ก" ก็เหมือนยังมาไม่ถึงเบอร์ลิน หรือบางท่านก็บอกว่าเหมือนมาไม่ถึงหัวใจเชิงสัญลักษณ์ของเยอรมนีครับผม
อ่อ ลืมพูดถึง รูปปั้นเทพีที่อยู่บนประตูบรันเดินบูร์ก คือ เทพีวิคตอเรีย (Victoria) เทพีแห่งชัยชนะตามตำนานเทพปกรณัมโรมัน เป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ ยืนอยู่บนรถม้าศึก 4 ล้อ (The Quadriga) เทพีสวมชุดยาว มือขวาชูพวงหรีด มือซ้ายถือคทา ม้าทั้ง 4 กำลังวิ่งทะยานไปข้างหน้า เป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ ความสำเร็จ และความรุ่งเรือง สื่อถึงความปรารถนาของชาวเยอรมันที่จะมีชัยชนะ และความเจริญรุ่งเรืองครับ ในยุคหนึ่งจักรพรรดินโปเลียนของจักรวรรดิฝรั่งเศส ทรงเคยยึดไปไว้ที่กรุงปารีสหลังจากเอาชนะปรัสเซียในปี 1806 (พ.ศ.2349 หรือสมัยรัชกาลที่ 1 เช่นกันครับ) 10 ปีต่อมา ปรัสเซียได้นำรูปปั้นวิคตอเรียกลับมาประดับบนประตูบรันเดินบูร์กอีกครั้ง จึงสื่อถึงชัยชนะของปรัสเซียเหนือฝรั่งเศสในสงครามนโปเลียน ช่วยให้ปรัสเซียกลายเป็นมหาอำนาจในยุโรป
อ่อ ลืมพูดถึง รูปปั้นเทพีที่อยู่บนประตูบรันเดินบูร์ก คือ เทพีวิคตอเรีย (Victoria) เทพีแห่งชัยชนะตามตำนานเทพปกรณัมโรมัน เป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ ยืนอยู่บนรถม้าศึก 4 ล้อ (The Quadriga) เทพีสวมชุดยาว มือขวาชูพวงหรีด มือซ้ายถือคทา ม้าทั้ง 4 กำลังวิ่งทะยานไปข้างหน้า เป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ ความสำเร็จ และความรุ่งเรือง สื่อถึงความปรารถนาของชาวเยอรมันที่จะมีชัยชนะ และความเจริญรุ่งเรืองครับ ในยุคหนึ่งจักรพรรดินโปเลียนของจักรวรรดิฝรั่งเศส ทรงเคยยึดไปไว้ที่กรุงปารีสหลังจากเอาชนะปรัสเซียในปี 1806 (พ.ศ.2349 หรือสมัยรัชกาลที่ 1 เช่นกันครับ) 10 ปีต่อมา ปรัสเซียได้นำรูปปั้นวิคตอเรียกลับมาประดับบนประตูบรันเดินบูร์กอีกครั้ง จึงสื่อถึงชัยชนะของปรัสเซียเหนือฝรั่งเศสในสงครามนโปเลียน ช่วยให้ปรัสเซียกลายเป็นมหาอำนาจในยุโรป
คนเบอร์ลินจึงมองรูปปั้นวิคตอเรียเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจ และความกล้าหาญ อย่างไรก็ดี ในเชิงสัญลักษณ์ของสันติภาพนั้น เริ่มเปลี่ยนไปหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 รูปปั้นเทพีวิคตอเรีย กลายเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพและความหวัง มากกว่าจะมองว่าเป็นชัยชนะเหนือการสงคราม ดังนั้น
คนเบอร์ลินหรือคนเยอรมันจึงใคร่ครวญและมองเป็นเครื่องเตือนใจว่า เยอรมันผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ และกำลังมุ่งสู่อนาคตที่ดีกว่าครับผม(ลิ้งก์ข้อมูลประกอบ https://www.berlin.de/sehenswuerdigkeiten/3560266-3558930-brandenburger-tor.html)
เขียนโดย
ณัฐพล จารัตน์
กรุงเบอร์ลิน
27.02.2567
@NattJarat