Search This Blog

Tuesday, August 8, 2023

故障中 : จะติดป้ายว่าอย่างไร เมื่อ ตู้ Geldautomat เสีย หรือว่าอย่างเข้าใจง่าย ๆ คือ ตู้ ATM เสีย


การหาตู้ ATM หรือที่ภาษาเยอรมันเรียกว่า Geldautomat บางครั้งรู้สึกเองว่าหายากจริง ๆ พอหาเจอก็ต้องทำใจหน่อยว่า ตู้ Geldautomat ที่จะกดเป็นตู้ของธนาคารเครือข่ายหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ต้องเสียค่าธรรมเนียมก้ตั้งแต่ 4 - 6 ยูโร คิดเป็นเงินไทยก็ต้องกระอักเลือด  

ทุกครั้งต้องเปิด Google map เสริชหาตู้ Geldautomat ที่ใกล้ ๆ บ้าน ต้องหาด้วยคำว่า 

Geldautomat in Steglitz, Berlin
Geldautomat near me
Geldautomat ATM
Geldautomaten in Deutschland
Geld abheben in Deutschland

เป็นคำหลัก ๆ ที่ใช้ค้นหา ถ้าเทียบกับในเมืองไทย หลายคนก็เสริชคำว่า 

ตู้ ATM ใกล้ฉัน
ตู้ ATM กรุงเทพ
ตู้ ATM กสิกรไทย
ตู้ ATM กรุงไทย
ตู้ ATM SCB

คงเสริชในลักษณะเดียวกัน เดี๋ยวนี้อาจาร์ Google ใช้ภาษาอะไรก็อ่านออก เข้าใจได้

พอเดินมาเจอตู้ Geldautomat ที่หาแสนยากเย็น ดันเจอกระดาษติดว่า Außer Betrieb 

ถามว่าเข้าใจไหม ตอบว่ายังไม่เข้าใจ แต่เดาได้ว่า ตู้ ATM หรือเจ้าตู้ Geldautomat คงใช้งานไม่ได้ 
ในหัวมีคำศัพท์แค่ว่าคำว่า kaputt แปลว่า พัก เสีย แตก หัก ใช้งานไม่ได้ 

วันนี้ได้เรียนรู้คำว่าใหม่ กลับมาถึงบ้าน รีบหาความหมาย แต่ก่อนที่จะลืม ขออนุญาตถ่ายรูปกลับมาไว้ เพื่อป้องกันการลืม

Außer Betrieb  มีความหมายคล้ายภาษาอังกฤษว่า  Out of order ความหมายตรง ๆ น่าจะใกล้เคียงคำว่า it needs repairs หรือ for maintenance
ในภาษาไทยคงหมายถึง งดบริการชั่วคราว 
อ่อในภาษาญี่ปุ่นที่เคยเห็นจะติดคำว่า 故障中 (こしょうちゅう) แปลตามตัวคือ อยู่ระหว่างซ่อม หรือ อยู่ระหว่างเสียหาย (ฟังดูตลก ๆ ดี)

เอาเป็นว่าทั้งหมดทั้งหมด จะบอกว่า เครื่อง Geldautomat เสีย หรือเครื่องใช้งานไม่ได้ในขณะนี้

Außer แปลว่า อยู่นอกเหนือ บางสิ่งบางอย่าง
Betrieb แปลว่า ธุรกิจ การดำเนินการ การทำงาน

สรุปว่า รวมจากภาษาเยอรมันเอง คงตรงกับความหมายว่า อยู่นอกเหนือการทำงาน 
นั้นหมายความว่า เครื่องเสียนั่นเอง

ณัฐพล จารัตน์
กรุงเบอร์ลิน
09.08.2566

ปล.มือใหม่เรียนภาษาเยอรมัน ถูกหรือผิดประการใด ขอผู้รู้ชี้แนะจะเป็นพระคุณยิ่ง



Sunday, August 6, 2023

หยิบไปได้ตามสบาย : วัฒนธรรม zu verschenken การบริจาคสิ่งของในบ้านในเมืองเบอร์ลิน



https://www.kleinanzeigen.de/s-zu-verschenken/berlin/c192l3331
https://www.bsr.de/verschenkmarkt/Classifieds/List/Index.aspx
https://www.free-your-stuff.com/de/berlin

สังคมสูงวัยและประชากรลดลง รัฐบาลเยอรมันเล็งเพิ่ม "ผู้หญิง" เข้าเป็นทหาร

สวัสดีจากกรุงเบอร์ลินของวันที่ 5 สิงหาคม 2566 ขณะนี้เวลา 23.39 น. อากาศข้างนอกบ้านประมาณ 17 องศา ถือว่ากำลังสบาย ๆ แต่พรุ่งนี้พยากรณ์อากาศของเยอรมนี หรือ Deutscher Wetterdienst (น่าจะเป็นกรมอุตุนิยมวิทยา) คาดว่าฝนจะตกถึง 50% ในกรุงเบอร์ลิน คนเยอรมันพูดคุยกันถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนหนัก วันนี้วันเดียวมีทั้งฝนตกหนัก น้ำท่วม ร้อน และหิมะตกในบางเมืองของประเทศ 

ตามที่หัวข้อเขียนไว้ เน้นที่ "ผู้หญิง" จะเข้าเป็นทหารมากขึ้นในกองทัพของเยอรมนี หรือ Bundeswehe เนื่องจากเยอรมนียกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร (Abschaftfung der Wehrpflicht) ตั้งแต่ปี 2000 (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ) เปลี่ยนเป็นสมัครใจเข้าเป็นทหารด้วยการกรอกใบสมัครเหมือนการสมัครงานของพลเรือนทั่วไป

ปัจจุบันพบว่ามีผู้สนใจสมัครเข้าเป็นทหารน้อยลงอย่างชัดเจน สาเหตุมาจากจำนวนสัดส่วนของประชากรวันที่เหมาะสมกับการเข้าเป็นทหารลดลง สังคมเป็นสัมคมผู้สูงอายุ และความไม่สนใจที่จะเป็นทหารของคนเยอรมัน อาจมาจากสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียก็เป็นได้ 

กระทรวงกลาโหมของเยอรมนีเริ่มอาการปวดหัวและนั่งไม่ติดที่ เพราะเยอรมนีเป็นประเทศสมาชิกนาโต (NATO) และเป็นพี่ใหญ่ทางเศรษฐกิจของยุโรป ถ้ามีทหารน้อยลง จะเป็นอุปสรรคในการสนับสนุนทางการทหารแก่นาโตและชาติสมาชิกนาโตอีกด้วย ถ้ายิ่งคนน้อย การปฏิบัติภารกิจทางทหารก็ยากจะสำเร็จ ดังนั้น ครม. ของรัฐบาลกลางเยอรมนีจึงผ่านร่างกฎหมายให้เพิ่มสัดส่วนผู้หญิงในกองทัพมากขึ้น 

คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลกลางผ่านร่างกฎหมายฉบับแก้ไขเกี่ยวกับความเท่าเทียมกันทางเพศในกองทัพเมื่อวันพุธที่ 26 กรกฎาคม 2566 มีเป้าหมายที่จะค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนของทหารหญิงในตำแหน่งผู้บริหาร และจะปรับปรุงการสนับสนุนทางการเงินสำหรับการดูแลเด็กและสมาชิกในครอบครัวของททหาร ปัจจุบันมีสัดส่วนของผู้หญิงใน Bundeswehr มาถึงร้อยละ 13 อย่างไรก็ตาม กองทัพเยอรมนี (Bundeswehr) ควรจ้างงานและดึงดูดผู้หญิงให้เข้ากองทัพมากขึ้น เนื่องจากกฎหมายพื้นฐานได้รับการแก้ไขเมื่อปลายปี 2543 อนุญาตให้ทหารหญิงใน Bundeswehr สามารถถืออาวุธได้เช่นกัน เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคทางทหารตั้งแต่ปี 2547 และแก้ไขล่าสุดปี 2556 

Bundeswehr จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันของผู้หญิงและผู้ชายเพื่อดึงดูดให้เข้ามาเป็นทหาร เหตุผลสำหรับร่างกฎหมายความเท่าเทียมกันทางเพศในกองทัพต้องการเพิ่มเติมกฎและข้อบังคับเกี่ยวกับโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับบุคลากรทางทหาร กองทัพต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ส่งเสริมการใช้ศักยภาพทางทหารที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเพียงพอและผลพวงจากความเป็นสังคมผู้สูงอายุ

ผู้หญิงหรือทหารหญิงในกองทัพต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวของตนเอง กองทัพจึงหยิบประเด็นการดูแลครอบครัวขึ้นมาพิจารณาเป็นครั้งแรกเช่นกัน ประเด็นนี้รวมถึงการดูแลเด็ก การสนับสนุนทางการเงิน งานควบคุมดูแลและงานพยาบาลต้องได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยต้องไม่ส่งผลด้านลบต่อการเลื่อนตำแหน่งและการประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้วยกฎหมายนี้การพิจารณาตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ทหารทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะมีโอกาสที่เท่าเทียมกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงจะมีสิทธิที่สามารถเข้าถึงข้อมูลในกระบวนการทางวินัยและการร้องเรียนมากยิ่งขึ้น รวมถึงไม่มีการการคัดค้านด้วยเหตุความแตกต่างทางเพศ

ในเชิงสถิติ ณ สิ้นปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 24,180 คน คิดเป็นร้อยละ 13.2 จากทั้งหมดจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 182,000 คนของ Bundeswehr เป็นผู้หญิง โดยสัดส่วนที่มากที่สุดเป็นการปฏิบัติงานบริการทางการแพทย์ ร้อยละ 45.65 และในทำหน้าที่อื่น ๆ ร้อยละ 15  อย่างไรก็ตามในสัดส่วนร้อยละ 15 ผู้หญิงได้รับการพิจารณาว่าไม่ได้มีบทบาทในกองทัพเพราะเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่างานบริการทางการแพทย์ จึงจำเป็นต้องปรับสัดส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในตำแหน่งผู้บริหารมีสัดส่วนของทหารหญิงที่ปฏิบัติหน้าที่โดยตรงต่อกระทรวงกลาโหมร้อยละ 2.4 และในพลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนร้อยละ 33.8

อย่างไรก็ตาม ตามรายงานข่าวยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับสัดส่วนของผู้หญิงในตำแหน่งผู้บริหารในร่างกฎหมายความเท่าเทียมกันทางเพศในกองทัพ เป้าหมายทั่วไประบุบใจความสำคัญเพียงว่า "จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น"  ดังนั้น หมายความว่า ผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษในการปรับเปลี่ยนหน้าที่หรือเลื่อนตำแหน่ง หากผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่เดิมเลย 

กฎหมายฉบับนี้จะนำความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อการส่งเสริมความก้าวหน้าด้านความเท่าเทียมทางเพศในกองทัพและการพัฒนากองทัพสู่ยุคใหม่

ผมได้อ่านข่าวและคุยกับคนเยอรมันที่เริ่มมีเสียงอยากให้การเกณฑ์ทหารกลับมาอีกครั้ง นั่นเป็นเพราะสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน คนเยอรมันเกิดความไม่มั่นคงถ้าหากเกิดสงครามขึ้น เยอรมันจะมีทหารพร้อมกับการสู้รบหรือไม่ แต่การนำระบบเกณฑ์ทหารกลับมาเหมือนเดิม ยังไม่อาจเกิดขึ้นได้ง่าย ต้องขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีและประชาชนของเยอรมนีด้วย

การเพิ่มจำนวนด้วยสนับสนุนผู้หญิงเข้ามาเป็นทหารเป็นแนวคิดที่สร้างความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิง (แม้ในหลายปัจจัยต่างกัน) คาดว่าจะเพิ่มจำนวนบุคลากรใน Bundeswehr ได้ในระยะตามนโยบายของรัฐบาล

มองกลับไปที่ประเทศไทย เรากำลังพูดถึงเรื่องการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพื่อเปลี่ยนเป็นแบบสมัครใจ แน่นอนว่าช่วงแรกคนน่าจะสนใจเยอะ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่มีงานทำคงจะสมัครกัน ผมยังคิดว่าในระยะยาวจะมีคนสมัครเป็นทหารกันมากหรือ เหตุผลหรือสาเหตุเช่นเดียวกับเยอรมัน คือ ประชากรลดลง สังคมสูงสัย และบทบาทของทหารไม่เหมือนเดิม นั่นสิครับ เยอรมันน่าจะเป็นโมเดลสำหรับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

สังคมไทยเราเป็นสังคมง่าย ๆ ไม่คิดเยอะ ไม่ (อยาก) ซับซ้อน แต่ก็ทำให้เราเดินไปอย่างช้าเกนควร บางนโยบายพอเรากำลังจะทำ พอดูทางตะวันตกกลับเป็นเรื่องที่ตามเขาไม่ทัน เขาไปเรื่องใหม่กันแล้ว 

ผมจะลองติดตามว่านโยบายรับสมัครผู้หญิงเข้าประจำการจะเป็นอย่างไร ข่าวคงมีเรื่อย ๆ 

ณัฐพล จารัตน์

กรุงเบอร์ลิน

05.08.2566


ที่มาของข้อมูล

* https://www.bmvg.de/de/aktuelles/verbesserungen-gleichstellung-betreuung-zuverdienst-geplant-5659672

* https://www.msn.com/de-de/nachrichten/politik/bundeswehr-soll-f%C3%BCr-frauen-als-arbeitgeber-attraktiver-werden/ar-AA1en1IX?ocid=msedgdhp&pc=U531&cvid=15ac10402e8548bfaa02c6aadd96c6c1&ei=11