Friday, August 18, 2023
Wednesday, August 16, 2023
Tuesday, August 15, 2023
Monday, August 14, 2023
タイと中国と合同軍事演習 - การฝึกซ้อมทางทหารแบบกองทัพต่อกองทัพ
จากข่าวทางเว็บภาษาญี่ปุ่น jiji.com ขออนุญาตนำมาใช้เพื่อเรียนคำศัพท์ทางการทหาร เป็นข่าวเกี่ยวกับไทยและจีนประกาศแผนการซ้อมรบร่วมกัน ข่าวนี้เป็นข่าวสั้น ๆ แต่ความหมายยืดยาว เป็นข่าวลักษณะ #softpower หรือเชิงอววัจนภาษาเชิงการทูตทหารครับ ถ้าจะอธิบายคงยืดยาว เพราะในตรงนี้จะหาคความหมายของคำศัพท์ครับ ฝากไว้ก่อนค่อยมาเล่าใหม่
กระทรวงกลาโหมของจีนประกาศเมื่อวันที่ 14 ว่าจะมีการซ้อมรบร่วมกับไทยตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน การซ้อมจะมีขึ้นในประเทศไทย 👇
中国国防省は14日、8月中旬から9月上旬にかけてタイと合同軍事演習を実施すると発表した。演習はタイ国内で行われる。
การฝึกซ้อมทางทหารแบบกองทัพต่อกองทัพมีเป้าหมายเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายและเป็นส่วนหนึ่งของแผนประจำปี ตามคำแถลงของกระทรวงกลาโหม
国防省の声明によると、陸軍間の軍事演習は対テロを目的としており、年間計画の一部という。
ที่มาของข้อมูล
Thursday, August 10, 2023
เยอรมันต้องเพิ่มสัดส่วน “ผู้หญิง” ในกองกำลังของเยอรมนี : Frauen bei der Bundeswehr
บทบาทเจ้าหน้าที่ “ผู้หญิง” ประจำการใน Bundeswehr หลังจากคำตันสินของศาลยุติธรรมแห่งยุโรปในปี 2000 (พ.ศ.2543) Bundeswehr ต้องเปิดรับให้ผู้หญิงเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่พลเรือนในกองกำลังของเยอรมนีอย่างเท่าเทียมกับผู้ชาย ผู้หญิงที่เข้าสู่ Bundeswehr สามารถเป็นนักบินรบและเฮลิคอปเตอร์ ขับรถถัง หรือแม้แต่ผู้บัญชาการเรือรบ มีโอกาสทำงานเท่ากับนายทหารชาย ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่ทางการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT นักแม่นปืน จนถึงบทบาทความเป็นผู้นำของหน่วยทหาร ยกเว้นเพียงแต่การแข่งกีฬาใน Bundeswehr บางประเภทต้องแยกความแตกต่างกันบ้าง ทหารหญิงจึงมีบทบาทเกือบทุกพื้นที่ที่เคยกำกัดไว้เพียงทหารชายในอดีต ปัจจุบันมีจำนวนทหารหญิงเข้าประจำการใน Bundeswehr เกือบ 23,500 นาย และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ประมาณการว่ามีนายทหารผู้หญิงถึงร้อยละ 13 จากจำนวนบุคลากร 184,000 นาย ใน Bundeswehr นายทหารหญิงก้าวเข้าสู่ Bundeswehr ด้วยการสมัครเป็นทหารเกณฑ์ สามารถเลื่อนยศหรือเลื่อนขั้นสูงจนถึงระดับนายพล
จำนวนเฉพาะนายทหารหญิงใน Bundeswehr ตามหน่วยต่าง ๆ
ทบ. 4,722 นาย / ทอ. 2,569 นาย / ทร. 1,717 นาย / บก.กห. 2,569 นาย / น.การแพทย์ 8,236 นาย /
น.ไซเบอร์และเทคโนโลยีอวกาศ 1,431 นาย / น.ในส่วนของ กห.2,874 นาย
สำหรับเจ้าหน้าที่พลเรือนหญิงใน Bundeswehr จะได้รับโอกาสด้านอาชีพและฝึกความเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำงานด้านต่าง ๆ จาก Bundeswehr จำนวนพลเรือนทั้งชาญหญิงในปัจจุบันราวม 81,210 คน เป็นพลเรือนหญิงถึง 31,367 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 39 ประจำการในทุกกรมกองของ Bundeswehr ทำหน้าที่เสมียนวิศวกรสำหรับเทคโนโลยีการป้องกัน นักชีววิทยาและนักธรณีวิทยา ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงยังรับผิดชอบในระดับการจัดการของสำนักงานบริหารการทหารของ Bundeswehr
จำนวนของพลเรือนหญิงใน Bundeswehr
เจ้าหน้าที่ทั่วไป 9,729 คน แบ่งเป็น เจ้าหน้าที่ทำงานสูงกว่าระดับสูง 1,971 คน ระดับสูง 3,52 คน ระดับกลาง 3,780 คน ระดับงานไม่ซับซ้อน 26 คน / คนงาน 19,602 คน / ฝึกงาน 2,036 คน
จำนวนของสถานะของนายทหารหญิงใน Bundeswehr ในปัจจุบัน ประเภทนายทหารอาชีพ (นายทหารประจำการ) จำนวน 4,784 นาย / ทหารเกณฑ์ (สมัครใจ) 17,516 นาย / นายทหารอาสา (Freiwilliger Wehrdienst: Voluntary Military Service) 1,772 นาย / นายทหารอาสาเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ 46 นาย
จึงเห็นได้ว่า Bundeswehr เปิดโอกาสให้ผู้หญิงในการเข้าเป็นทหารและมีความก้าวหน้าทัดเทียมนายทหารผู้ชายซึ่งเป็นไปตามหลักการไม่เลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเพศ
วิเคราะห์เพิ่มเติม
Bundeswehr เปิดรับสมัครทหารเยอรมันในเดือนกุมภาพันธ์และสิงหาคมของทุกปี รับสมัครทั้งชายและหญิงที่สนใจเข้าเป็นทหาร ปัจจุบัน Bundeswehr ประสบปัญหาขาดแครลนบุคลากรทั้งในแนวหน้าและแนวหลังราว 40,000 นาย จึงจำเป็นต้องรับสมัครบุคลากรเพิ่มเติมตามสัดส่วนทุกปี ผู้หญิงเป็นเป้าหมายสำคัญในการเพิ่มจำนวนของบุคลากร การนำเสนอข่าวของ Bundeswehr เกี่ยวกับผู้หญิงในช่วงนี้ เพื่อเชิญชวนและให้เห็นประโยชน์ของการเข้ามาทำงานใน Bundeswehr โอกาสก้าวหน้าและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับ
อีกประการหนึ่ง หลังจากเกิดสงครามรุกรานยูเครนจากรัสเซีย ส่งผลให้ประชาชนเยอรมันเริ่มถกเถียงเรื่องความต้องการให้ระบบการเกณฑ์ทหารกลับคืนเหมือนเดิมแทนการสมัครใจ Bundeswehr จึงใช้โอกาสนี้ให้ข้อมูลเพื่อให้ผู้สนใจโดยเฉพาะผู้หญิงมีข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพ
Tuesday, August 8, 2023
故障中 : จะติดป้ายว่าอย่างไร เมื่อ ตู้ Geldautomat เสีย หรือว่าอย่างเข้าใจง่าย ๆ คือ ตู้ ATM เสีย
Sunday, August 6, 2023
สังคมสูงวัยและประชากรลดลง รัฐบาลเยอรมันเล็งเพิ่ม "ผู้หญิง" เข้าเป็นทหาร
สวัสดีจากกรุงเบอร์ลินของวันที่ 5 สิงหาคม 2566 ขณะนี้เวลา 23.39 น. อากาศข้างนอกบ้านประมาณ 17 องศา ถือว่ากำลังสบาย ๆ แต่พรุ่งนี้พยากรณ์อากาศของเยอรมนี หรือ Deutscher Wetterdienst (น่าจะเป็นกรมอุตุนิยมวิทยา) คาดว่าฝนจะตกถึง 50% ในกรุงเบอร์ลิน คนเยอรมันพูดคุยกันถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนหนัก วันนี้วันเดียวมีทั้งฝนตกหนัก น้ำท่วม ร้อน และหิมะตกในบางเมืองของประเทศ
ตามที่หัวข้อเขียนไว้ เน้นที่ "ผู้หญิง" จะเข้าเป็นทหารมากขึ้นในกองทัพของเยอรมนี หรือ Bundeswehe เนื่องจากเยอรมนียกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร (Abschaftfung der Wehrpflicht) ตั้งแต่ปี 2000 (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ) เปลี่ยนเป็นสมัครใจเข้าเป็นทหารด้วยการกรอกใบสมัครเหมือนการสมัครงานของพลเรือนทั่วไป
ปัจจุบันพบว่ามีผู้สนใจสมัครเข้าเป็นทหารน้อยลงอย่างชัดเจน สาเหตุมาจากจำนวนสัดส่วนของประชากรวันที่เหมาะสมกับการเข้าเป็นทหารลดลง สังคมเป็นสัมคมผู้สูงอายุ และความไม่สนใจที่จะเป็นทหารของคนเยอรมัน อาจมาจากสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียก็เป็นได้
กระทรวงกลาโหมของเยอรมนีเริ่มอาการปวดหัวและนั่งไม่ติดที่ เพราะเยอรมนีเป็นประเทศสมาชิกนาโต (NATO) และเป็นพี่ใหญ่ทางเศรษฐกิจของยุโรป ถ้ามีทหารน้อยลง จะเป็นอุปสรรคในการสนับสนุนทางการทหารแก่นาโตและชาติสมาชิกนาโตอีกด้วย ถ้ายิ่งคนน้อย การปฏิบัติภารกิจทางทหารก็ยากจะสำเร็จ ดังนั้น ครม. ของรัฐบาลกลางเยอรมนีจึงผ่านร่างกฎหมายให้เพิ่มสัดส่วนผู้หญิงในกองทัพมากขึ้น
คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลกลางผ่านร่างกฎหมายฉบับแก้ไขเกี่ยวกับความเท่าเทียมกันทางเพศในกองทัพเมื่อวันพุธที่ 26 กรกฎาคม 2566 มีเป้าหมายที่จะค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนของทหารหญิงในตำแหน่งผู้บริหาร และจะปรับปรุงการสนับสนุนทางการเงินสำหรับการดูแลเด็กและสมาชิกในครอบครัวของททหาร ปัจจุบันมีสัดส่วนของผู้หญิงใน Bundeswehr มาถึงร้อยละ 13 อย่างไรก็ตาม กองทัพเยอรมนี (Bundeswehr) ควรจ้างงานและดึงดูดผู้หญิงให้เข้ากองทัพมากขึ้น เนื่องจากกฎหมายพื้นฐานได้รับการแก้ไขเมื่อปลายปี 2543 อนุญาตให้ทหารหญิงใน Bundeswehr สามารถถืออาวุธได้เช่นกัน เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคทางทหารตั้งแต่ปี 2547 และแก้ไขล่าสุดปี 2556
Bundeswehr จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันของผู้หญิงและผู้ชายเพื่อดึงดูดให้เข้ามาเป็นทหาร เหตุผลสำหรับร่างกฎหมายความเท่าเทียมกันทางเพศในกองทัพต้องการเพิ่มเติมกฎและข้อบังคับเกี่ยวกับโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับบุคลากรทางทหาร กองทัพต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ส่งเสริมการใช้ศักยภาพทางทหารที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเพียงพอและผลพวงจากความเป็นสังคมผู้สูงอายุ
ผู้หญิงหรือทหารหญิงในกองทัพต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวของตนเอง กองทัพจึงหยิบประเด็นการดูแลครอบครัวขึ้นมาพิจารณาเป็นครั้งแรกเช่นกัน ประเด็นนี้รวมถึงการดูแลเด็ก การสนับสนุนทางการเงิน งานควบคุมดูแลและงานพยาบาลต้องได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยต้องไม่ส่งผลด้านลบต่อการเลื่อนตำแหน่งและการประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้วยกฎหมายนี้การพิจารณาตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ทหารทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะมีโอกาสที่เท่าเทียมกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงจะมีสิทธิที่สามารถเข้าถึงข้อมูลในกระบวนการทางวินัยและการร้องเรียนมากยิ่งขึ้น รวมถึงไม่มีการการคัดค้านด้วยเหตุความแตกต่างทางเพศ
ในเชิงสถิติ ณ สิ้นปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 24,180 คน คิดเป็นร้อยละ 13.2 จากทั้งหมดจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 182,000 คนของ Bundeswehr เป็นผู้หญิง โดยสัดส่วนที่มากที่สุดเป็นการปฏิบัติงานบริการทางการแพทย์ ร้อยละ 45.65 และในทำหน้าที่อื่น ๆ ร้อยละ 15 อย่างไรก็ตามในสัดส่วนร้อยละ 15 ผู้หญิงได้รับการพิจารณาว่าไม่ได้มีบทบาทในกองทัพเพราะเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่างานบริการทางการแพทย์ จึงจำเป็นต้องปรับสัดส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในตำแหน่งผู้บริหารมีสัดส่วนของทหารหญิงที่ปฏิบัติหน้าที่โดยตรงต่อกระทรวงกลาโหมร้อยละ 2.4 และในพลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนร้อยละ 33.8
อย่างไรก็ตาม ตามรายงานข่าวยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับสัดส่วนของผู้หญิงในตำแหน่งผู้บริหารในร่างกฎหมายความเท่าเทียมกันทางเพศในกองทัพ เป้าหมายทั่วไประบุบใจความสำคัญเพียงว่า "จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น" ดังนั้น หมายความว่า ผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษในการปรับเปลี่ยนหน้าที่หรือเลื่อนตำแหน่ง หากผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่เดิมเลย
กฎหมายฉบับนี้จะนำความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อการส่งเสริมความก้าวหน้าด้านความเท่าเทียมทางเพศในกองทัพและการพัฒนากองทัพสู่ยุคใหม่
ผมได้อ่านข่าวและคุยกับคนเยอรมันที่เริ่มมีเสียงอยากให้การเกณฑ์ทหารกลับมาอีกครั้ง นั่นเป็นเพราะสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน คนเยอรมันเกิดความไม่มั่นคงถ้าหากเกิดสงครามขึ้น เยอรมันจะมีทหารพร้อมกับการสู้รบหรือไม่ แต่การนำระบบเกณฑ์ทหารกลับมาเหมือนเดิม ยังไม่อาจเกิดขึ้นได้ง่าย ต้องขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีและประชาชนของเยอรมนีด้วย
การเพิ่มจำนวนด้วยสนับสนุนผู้หญิงเข้ามาเป็นทหารเป็นแนวคิดที่สร้างความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิง (แม้ในหลายปัจจัยต่างกัน) คาดว่าจะเพิ่มจำนวนบุคลากรใน Bundeswehr ได้ในระยะตามนโยบายของรัฐบาล
มองกลับไปที่ประเทศไทย เรากำลังพูดถึงเรื่องการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพื่อเปลี่ยนเป็นแบบสมัครใจ แน่นอนว่าช่วงแรกคนน่าจะสนใจเยอะ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่มีงานทำคงจะสมัครกัน ผมยังคิดว่าในระยะยาวจะมีคนสมัครเป็นทหารกันมากหรือ เหตุผลหรือสาเหตุเช่นเดียวกับเยอรมัน คือ ประชากรลดลง สังคมสูงสัย และบทบาทของทหารไม่เหมือนเดิม นั่นสิครับ เยอรมันน่าจะเป็นโมเดลสำหรับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
สังคมไทยเราเป็นสังคมง่าย ๆ ไม่คิดเยอะ ไม่ (อยาก) ซับซ้อน แต่ก็ทำให้เราเดินไปอย่างช้าเกนควร บางนโยบายพอเรากำลังจะทำ พอดูทางตะวันตกกลับเป็นเรื่องที่ตามเขาไม่ทัน เขาไปเรื่องใหม่กันแล้ว
ผมจะลองติดตามว่านโยบายรับสมัครผู้หญิงเข้าประจำการจะเป็นอย่างไร ข่าวคงมีเรื่อย ๆ
ณัฐพล จารัตน์
กรุงเบอร์ลิน
05.08.2566
ที่มาของข้อมูล
* https://www.bmvg.de/de/aktuelles/verbesserungen-gleichstellung-betreuung-zuverdienst-geplant-5659672
Saturday, August 5, 2023
พาดหัวข่าว ,,Wann wird's mal wieder richtig summer?" จากหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ของเยอรมัน
🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩🤩
Eldorado : ไนต์คลับ Eldorado ตั้งอยู่ในย่านเชินเนอแบร์ก เป็นสถานที่ที่ชุมชนเกย์ เลสเบี้ยน และคนข้ามเพศสมัยนาซี
"Eldorado: Everything the Nazis Hate" เป็นภาพยนตร์สารคดีที่กำกับโดย Benjamin Cantu ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของชุมชน LGBTQ+ ในกรุงเบอร์ลินช่วงทศวรรษ 1920 โดยมีไนต์คลับ "Eldorado" เป็นศูนย์กลาง ภาพยนตร์นี้สำรวจความรุ่งเรืองและความเสื่อมถอยของเสรีภาพทางเพศในยุคนั้น รวมถึงผลกระทบจากการขึ้นสู่อำนาจของพรรคนาซี
ไนต์คลับ Eldorado ตั้งอยู่ในย่านเชินเนอแบร์ก เป็นสถานที่ที่ชุมชนเกย์ เลสเบี้ยน และคนข้ามเพศมารวมตัวกัน เพื่อแสดงออกถึงตัวตนและเสรีภาพทางเพศ ที่นี่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก สร้างบรรยากาศของความหลากหลายและความเปิดกว้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคนาซีขึ้นสู่อำนาจ สถานที่เหล่านี้ถูกปิดตัวลง และชุมชน LGBTQ+ ต้องเผชิญกับการกดขี่และการประหัตประหาร
สารคดีนี้ใช้ฟุตเทจเก่าและการสัมภาษณ์ผู้ที่มีประสบการณ์ตรง เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของบุคคลสำคัญในยุคนั้น เช่น Magnus Hirschfeld นักเพศวิทยาที่เป็นผู้บุกเบิกการดูแลสุขภาพสำหรับคนข้ามเพศ และ Ernst Röhm สมาชิกพรรคนาซีที่เป็นเกย์ ซึ่งถูกสังหารโดยระบอบที่เขาช่วยสร้างขึ้น ภาพยนตร์นี้ยังสำรวจบทบาทของกฎหมาย Paragraph 175 ซึ่งใช้ในการกดขี่ชุมชนเกย์ในเยอรมนี ทั้งในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
"Eldorado: Everything the Nazis Hate" ไม่เพียงนำเสนอประวัติศาสตร์ของชุมชน LGBTQ+ ในเบอร์ลิน แต่ยังเป็นการเตือนใจถึงความเปราะบางของเสรีภาพและความสำคัญของการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ภาพยนตร์นี้ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ว่าเป็นการนำเสนอประวัติศาสตร์ที่เข้าถึงได้และมีพลัง ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของการไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวของชุมชน LGBTQ+ ในยุโรปช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง "Eldorado: Everything the Nazis Hate" เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากให้ภาพรวมที่ชัดเจนและลึกซึ้งเกี่ยวกับความรุ่งเรืองและความท้าทายที่ชุมชนนี้ต้องเผชิญ และเป็นการย้ำเตือนถึงความสำคัญของการรักษาและปกป้องเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนในสังคมปัจจุบัน
----------
วันที่ 2 ธันวาคม 2567
วันนี้ผมย้อนกลับไปชมสารคดี "Eldorado: Everything the Nazis Hate" อีกครั้ง ภาพยนตร์ที่ทำให้เห็นภาพความรุ่งเรืองของชุมชน LGBTQ+ ในกรุงเบอร์ลินช่วงปี 1920 ก่อนที่ทุกสิ่งจะถูกกลืนหายไปในยุคมืดแห่งการปกครองของพรรคนาซี Eldorado ไม่ใช่เพียงไนต์คลับ แต่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่ผู้คนหลากหลายเพศสภาพสามารถแสดงตัวตนอย่างเสรี ท่ามกลางความหลากหลายและสีสันของเมืองที่เปล่งประกายที่สุดในยุโรปตอนนั้น
เมื่อคิดถึงประเด็นนี้ในบริบทปัจจุบัน ผมเริ่มวิเคราะห์ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติปี 2023 ซึ่ง Eldorado และเรื่องราวของมันเชื่อมโยงได้อย่างลึกซึ้งกับเป้าหมายหลายข้อ
SDG 5: ความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality)
Eldorado สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างพื้นที่ที่ทุกเพศสภาพได้รับการยอมรับ แม้ในยุคที่สังคมเต็มไปด้วยอคติและการกดขี่ ชุมชน LGBTQ+ ในเวลานั้นเป็นตัวอย่างของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ซึ่งเป็นหัวใจของ SDG 5 การสร้างพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และการลดการเลือกปฏิบัติ ถือเป็นแนวคิดที่ยังคงมีความสำคัญในโลกปัจจุบัน
SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ (Reduced Inequalities)
เรื่องราวของ Eldorado เป็นตัวแทนของความพยายามลดความเหลื่อมล้ำในสังคมยุคนั้น แม้ว่ามันจะถูกทำลายลงในภายหลัง การยกย่องความหลากหลายทางเพศและความพยายามสร้างสังคมที่คนทุกกลุ่มมีโอกาสเท่าเทียม คือแนวทางที่ SDG 10 มุ่งเน้น
SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice, and Strong Institutions)
การล่มสลายของ Eldorado ภายใต้ระบอบเผด็จการนาซีเป็นบทเรียนสำคัญของการขาดสถาบันที่ปกป้องสิทธิมนุษยชน SDG 16 จึงเรียกร้องให้เราสร้างกลไกที่ช่วยปกป้องสิทธิและเสรีภาพ เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย Eldorado เตือนให้เราระลึกถึงความเปราะบางของเสรีภาพและหน้าที่ของเราที่จะรักษามันไว้
SDG 11: เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities)
เบอร์ลินในยุค 1920 เป็นตัวอย่างของเมืองที่เปล่งประกายด้วยวัฒนธรรม ความหลากหลาย และความสร้างสรรค์ Eldorado ช่วยสร้างพลวัตทางสังคมที่หล่อหลอมเมืองนี้ SDG 11 เน้นให้เราออกแบบเมืองและชุมชนที่เปิดกว้าง ยั่งยืน และไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง
เมื่อคิดถึง Eldorado และบริบทของ SDGs มันทำให้ผมตระหนักว่า เรื่องราวในอดีตสามารถให้แรงบันดาลใจในการสร้างอนาคตได้ หากเราเรียนรู้และลงมือทำเพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนได้รับการยอมรับ เคารพ และปกป้อง ผมหวังว่า Eldorado จะเป็นบทเรียนและแสงสว่างที่ช่วยชี้นำเราในเส้นทางนี้
ณัฐพล จารัตน์
กรุงเบอร์ลิน